สุรินทร์ - เปิดเบื้องหลังไขความจริงคลิปว่อนโซเชียลฯ เด็กนักเรียน 18 ปี ปะทะคารมเดือดกับ “หลวงพ่อ” อายุ 53 ปี บนท้องถนนท่าตูม เมืองช้าง และหลวงพ่อมีลักษณะคล้ายเมาสุรา ล่าสุดทั้งสองฝ่ายเปิดใจมีปัญหาขับขี่ปาดหน้ากัน ขณะที่ตำรวจชี้ตั้งข้อหาหลวงพ่อได้ ด้านผู้ใหญ่บ้านระบุพระวัดนี้พฤติการณ์ไม่น่าเคารพ นายอำเภอเคยนำกำลังบุกวัดตรวจค้นวัดจับสึกพระเอี่ยวยาบ้ามาแล้ว 2 รูป ขณะชาวบ้านเอือมระอาต้องตั้งสำนักสงฆ์ใหม่ขึ้นมาแทน
วันนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thirayu Lamprasert ได้โพสต์เผยแพร่คลิปวิดีโอ กรณีมีปากเสียงปะทะคารมกับพระสงฆ์รูปหนึ่งอย่างรุนแรงบนท้องถนน พร้อมเขียนอธิบายเหตุการณ์ ว่า “ได้ขับขี่จักรยานยนต์จากบ้านเพื่อนไปซื้อยาที่อำเภอท่าตูมมาให้พ่อ และขณะขี่จักรยานยนต์ระหว่างทางสายท่าตูม-รัตนบุรี บริเวณบ้านไกลเสนียด ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ พอขับรถไปถึงกลางทางป่าช้าบ้านหนองบัว มีรถกระบะสีดำขับรถตามมา จู่ๆ ก็แซงไปจอดหน้ารถผม แต่ผมก็ขับผ่านแล้วพระรูปนี้ก็ขับตามมาอีก เร่งเครื่องแซงรถผมไปอีกแล้วจอดอยู่เลยสี่แยกบ้านโพนงอย แล้วผมก็จอดรถ พระรูปนี้ลงมาจากรถ เดินเข้ามาหาผมที่รถผม เลยหยิบโทรศัพท์อัดคลิปไว้ แล้วนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ในสังคมด้วยครับ”
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของคลิปวิดีโอที่โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นายถิรายุ ล้ำประเสริฐ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) โรงเรียนศรีปทุมพิทยาคม ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งนายถิรายุได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ถนนสายท่าตูม-รัตนบุรี ใกล้สี่แยกบ้านไกลเสนียด ต.หนองบัว พร้อมชี้จุดที่รถยนต์กระบะของพระสงฆ์รูปหนึ่งขับตามหลังมา และมาจอดด้านหน้าจักรยานยนต์ที่ตัวเองขับมาก่อนมีการปะทะคารมกัน
โดยนายถิรายุบอกว่า หลวงพ่อขับรถกระบะมาปาดหน้าเบรกหยุดอยู่กลางถนน แล้วลงจากรถมาถามตนว่าอยู่บ้านไหน และผลักอกตน 1 ครั้ง ก่อนต่อว่าตน จากนั้นตนได้ถ่ายคลิปไว้ เหตุการณ์เกิดขึ้นประมาณ 4 โมงเย็นเมื่อวันก่อนขณะจะไปซื้อยาให้พ่อ
หลังโพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊กแล้ว ช่วงเย็นวันเดียวกันมีคนในหมู่บ้านมาเสนอให้เงิน 2,000 บาท เพื่อให้ลบคลิปออกและให้ลงขอโทษด้วย แต่ตนไม่ลบ และเขายังบอกอีกว่าหลวงพ่อเป็นนักเลงมาก่อน แต่ตนไม่สนใจ ก่อนไปเข้าห้องสอบ นอกจากนี้ระหว่างเกิดเหตุพบว่าพระมีอาการลักษณะคล้ายคนเมาด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องนี้แล้ว โดยนักเรียนได้มาปรึกษากับพนักงานสอบสวนเวร สภ.ท่าตูม ตนได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามพระสงฆ์รูปนี้ทราบว่าเป็นพระสงฆ์ที่วัดโนนจำปา อ.จอมพระ ซึ่งจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงว่าสามารถดำเนินคดีในข้อหาอะไรได้บ้าง ทั้งกรณีขับรถประมาทหวาดเสียว หรือกรณีดื่มสุรา
ทางด้านพระประยูร บุริสีโร อายุ 54 ปี บวชมาแล้ว 15 พรรษา พระลูกวัดศรีพรมอุดมธรรม ต.กระหาด อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ กล่าวกับผู้สื่อว่า วันเกิดเหตุยอมรับว่าขับรถไปเอง เพราะหาคนขับรถไม่ได้ โดยขับรถพาเจ้าอาวาสวัดไปหาญาติโยมที่บ้านหนองบัว บ้านของตนเพื่อนำรายชื่อญาติโยมมาจัดทำบุญผ้าป่า หาปัจจัยสร้างกำแพงแก้วรอบโบสถ์ ขณะเดินทางพบว่ามีจักรยานยนต์ขับลักษณะกวนหน้ารถ ขับผ่านไปแล้วก็เบรกอยู่หน้ารถ หากตนเบรกไม่ทันจะทำให้ชนได้ และขับไปแล้วยังก้มมองท่อไอเสีย เห็นว่าการขับแบบนี้จะเกิดอันตราย จึงขับปาดหน้าและหยุดรถลงมาถามว่าเป็นคนบ้านไหน ขับรถแบบนี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ จนมีการโต้เถียงกัน
“ส่วนที่บอกว่าอาตมาเมานั้น ยืนยันว่าไม่ได้เมา เป็นเพราะอาตมาเป็นคนพูดจาแบบนี้ตรงไปตรงมา เจ้าอาวาสวัดเป็นเจ้าคณะตำบลกระหาด และตำบลเป็นสุขก็นั่งอยู่ในรถด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาเครื่องวัดแอลกอฮอล์มาให้อาตมาเป่าก็ไม่พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินแต่อย่างใด”
นายอริยะ สิงโต (ในภาพสวมเสื้อน้ำเงินสวมหมวก) ผู้บ้านโนนจำปา หมู่ 3 ต.เป็นสุข หมู่บ้านอยู่ติดกับวัดศรีพรมอุดมธรรม บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่วัดแห่งนี้มีปัญหากับญาติโยมมาโดยตลอด เพราะพระสงฆ์ในวัดมีพฤติการณ์แปลกๆ ไม่น่าเคารพศรัทธา จนกระทั่งชาวบ้านโนนจำปาได้ไปตั้งสำนักสงฆ์แห่งใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแทน เพราะชาวบ้านส่วนหนึ่งเข้าไปในวัดศรีพรมอุดมธรรมไม่ได้ ส่วนพฤติกรรมของพระในวัด ตนเองเคยแจ้งให้ทางอำเภอ ทางเจ้าคณะอำเภอได้ทราบ แต่ไม่มีการเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขแต่อย่างใด
เมื่อปีที่แล้วนายอำเภอจอมพระได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาสารักษาดินแดน เข้าตรวจจับยาบ้าในวัด และจับสึกพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องกับยาบ้า 2 รูป ที่ผ่านมาพวกเราทราบเรื่องภายในวัดนี้ดีแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ในครั้งนี้สังคมควรมาตรวจสอบเพื่อให้วัดได้เป็นที่เพิ่งและเคารพศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป