ฝากขังแล้วมือยิง ผอ.รพ.สต.บ้านปลายนาสวน

กาญจนบุรี - หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่า มือยิง ผอ.รพ.สต.บ้านปลายนาสวน ฝากขังแล้ว เผยพบสารเสพติดประเภทกัญชาในร่างกาย คาดสรุปสำนวนคดีถึงมืออัยการอีก 1 เดือน

จากกรณี นายชลิต จินตนา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/2 หมู่ 4 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ตำแหน่ง ผอ.รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปลายนาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ถูก นายทรงวุฒิ อุดม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 5 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ตำแหน่ง พนักงานราชการ หน.หน่วยพิทักษ์ป่าแม่ละมุ่น ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

โดยใช้อาวุธปืนเอชเค 33 ยิงเสียชีวิต หลังก่อเหตุ นายทรงวุฒิ ได้เข้ามอบตัว พร้อมนำของกลางอาวุธปืนมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ พร้อมกับรับสารภาพว่า เข้าใจผิดคิดว่าผู้เสียชีวิตเป็นขบวนการตัดไม้ทำลายป่า แต่มาภายหลัง นายทรงวุฒิ ยอมรับสารภาพว่า โกรธแค้นผู้ตายที่มีความสนิทสนมกับภรรยาของตนในเชิงชู้สาว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 18.30 น.ของวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (24 ม.ค.) พ.ต.ท.พรชัย เพ็ชรเจริญ รอง ผกก.ป.รรท.ผกก.สภ.ด่านแม่แฉลบ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสวัสดิ์ ได้นำตัว นายทรงวุฒิ เดินทางไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร

โดยเจ้าหน้าที่ได้ยื่นคัดค้านการประตัว โดยให้เหตุผลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน และประชาชน แต่ทั้งนี้ ผู้ต้องหาก็มีสิทธิที่จะยื่นขอประกันตัวได้ และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะให้ประกันตัวหรือไม่

ทั้งนี้ พ.ต.ท.พรชัย เพ็ชรเจริญ รอง ผกก.ป.รรท.ผกก.สภ.ด่านแม่แฉลบ กล่าวว่า จากการนำปัสสาวะของผู้ต้องหาไปตรวจหาสารเสพติด ผลปรากฏว่า พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาประเภทกัญชา แต่จะต้องนำไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 อาทิตย์ ก็คงจะรู้ผล

ส่วนคำรับสารภาพของผู้ต้องหาว่า เกิดจากความแค้นที่ผู้ตายไปมีความสนิทสนมเชิงชู้สาวกับภรรยาของผู้ต้องหา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้งไป ส่วนเรื่องการตรวจอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งปลอกกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กำลังดำเนินการอยู่

โดยจากการสอบปากคำญาติของผู้เสียชีวิต รวมทั้งเพื่อนร่วมงาน และเพื่อนสนิทของผู้ตายต่างก็ไม่เชื่อว่ามูลเหตุเกิดจากเรื่องชู้สาว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติม เช่น สอบปากคำญาติของผู้ตาย รวมทั้งเพื่อนๆ ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำญาติ และคนสนิทของฝ่ายผู้ต้องหาด้วย เชื่อว่าคงจะทราบแรงจูงใจที่ทำให้ผู้ต้องหาลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ และคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการได้ภายใน 1 เดือน