นครปฐม - รอวันที่บานสะพรั่ง หนึ่งปีมีครั้ง ถนนสายชมพูพันธุ์ทิพย์ ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน 1 ใน 22 จุดชมดอกไม้อันงดงามจากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น...ความฝันผลิบาน”
นักท่องเที่ยวตั้งตารออย่างใจจดจ่อ เฝ้ารอคอยการเบ่งบานสะพรั่งของเจ้าตาเบบูย่า หรือชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยในช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนเมษายนของทุกปี ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ต้นนี้จะถึงฤดูกาลออกดอก ทำให้เกิดปรากฎการณ์ “ถนนสายสีชมพู”
เพราะสีสันของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ที่เบ่งบานสะพรั่งงดงามอร่ามไปตลอดแนวถนนบริเวณคณะวิศวกรรมศาสตร์ และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนได้รับการยกย่องจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี ให้เป็น 1 ใน 22 จุดชมดอกไม้อันงดงามจากโครงการ “Dream Destinations 2 กาลครั้งนั้น...ความฝันผลิบาน”
โดยมีการคาดการณ์กันกว่า ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ปี 61 นี้ ในชุดแรกน่าเริ่มบานในช่วงวันที่ 19 มกราคม และบานมากที่สุดวันที่วันที่ 21-25 มกราคม ส่วนชุดที่ 2 จะบายสะพรั่งพร้อมกันทั้งต้น ซึ่งเป็นการคาดการณ์ จากปีที่แล้ว ชมพูพันธุ์ทิพย์ จะบานเต็มที่ในช่วงวันที่ 5 กุมพาพันธ์-15 มีนาคม หรืออาจจะนานกว่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
ด้วยความอดใจไม่ไหว ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ พบว่า ชมพูพันธุ์ทิพย์ ยังไม่มีการบานออกดอกเต็มต้นเหมือนที่เป็นเช่นทุกปี โดยมีเพียงดอกบางส่วนที่ได้บานออกมาเพียง 1-2 ช่อเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นใบเขียวสลับกับใบที่ร่วงลงมาตามแรงลม ส่วนที่ยอดจะเห็นเป็นตุ่มเล็กๆ ที่ปลายยอดสลับกับดอกสีขาวอ่อนอมชมพู
“ชมพูพันธุ์ทิพย์ นั้นเพิ่งจะมียอดอ่อนออกมาให้เห็นส่วนที่เป็นดอกยอดต้นน่าจะเป็นดอกในชุดแรกของการออกดอกในปีนี้ ซึ่งดอกก็ยังไม่มีความชมพูมากนัก โดยที่พื้นดินก็ยังไม่มีดอกร่วงลงมาบนพื้นเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา 19 มกราคมนี้ ที่ทุกตั้งตารอว่าจะมาชื่นชมคงไม่ได้เห็น และยังไม่มีการจัดงานเปิดให้เข้ามาท่องเที่ยวในช่วงนี้” นักศึกษา ม.เกษตรฯ วิทยาเขตกำแพงแสน กล่าว
ทั้งนี้ ทุกปีหากมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมความงาม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยฯ จะมีการออกประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับการจัดงาน “เทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่กำแพงแสน” สำหรับปีนี้คาดว่าดอกชมพูพันทิพย์น่าจะบานได้สวยงามราวเดือนมีนาคม ถึงเมษายน เช่นปี 2560 แต่ต้องดูองค์ประกอบเรื่องดินฟ้าอากาศเป็นตัวแปร ซึ่งหากมีความพร้อมทางมหาวิทยาลัยจะมีการแจ้งข่าวล่วงหน้าอย่างเป็นทางการราว 1 สัปดาห์ ขอให้นักท่องเที่ยวอดใจรออีกหน่อย และติดตามข่าวสารการอัปเดตล่าสุด เพื่อจะได้ไม่เดินทางมาเสียเที่ยว
ชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือชมพูบริพัตร เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง สูงราว 8-12เมตร ใบเป็นแบบผสม มีใบย่อย 5 ใบบนต้นเดียวกัน แผ่ออกคล้ายใบปาล์ม ผิวไม่เรียบ ปลายใบแหลม ยาวประมาณ 12 เซนติเมตร กิ่งก้านสาขาแผ่ออกเป็นพุ่มค่อนข้างแน่น ชมพูพันธุ์ทิพย์ ใบแก่ และทิ้งใบในฤดูหนาว หลังจากนั้น จะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ดอกออกเป็นช่อตามกิ่งก้าน ช่อละ 5-8 ดอก
ต้นกำเนิดของชมพูพันธุ์ทิพย์ อยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ ต่อมา ได้ถูกนำไปปลูกในเขตร้อนทวีปต่างๆ อย่างแพร่หลาย รวมทั้งประเทศไทย มีบันทึกเป็นหลักฐานว่า กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิ์พินิต และ ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร เป็นผู้นำเข้ามาในประเทศครั้งแรก จึงตั้งชื่อตามสีดอก และเป็นเกียรติแก่ผู้นำเข้า ว่า ชมพูพันธุ์ทิพย์ ชื่อเดิมคือ ตาเบบูย่า ชื่อในภาษาอังกฤษ คือ Pink Trumpet Tree ตามลักษณ์ของดอกนั่นเอง
