ลำปาง - เปิดใจสองตายายในปิกอัพชนวินาศกลางเมืองลำปาง เชื่อบารมี “สมเด็จอกครุฑ-สวดคาถาชินบัญชร” ทำให้ผู้ประสบเหตุทั้งหมดเจ็บกันไม่มาก เผยครูเกษียณแค่เล็บฉีก หน้าผากถลอก เลือดออกในสมองเล็กน้อย ขณะที่ภรรยาแค่เคล็ดขัดยอกตามร่างกายเท่านั้น
วันนี้ (16 ม.ค.) คุณตาไกรฤกษ์ พงษ์ประเสริฐ อายุ 63 ปี ข้าราชการครูบำนาญ ซึ่งเป็นคนขับรถพุ่งชนแหลกกลางเมืองลำปาง-ห้าแยกหอนาฬิกา เมื่อเย็นวานนี้ ยังคงนอนพักรักษาตัวที่ตึกอุบัติเหตุ ชั้น 4 โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งแพทย์ให้นอนดูอาการ 2 วัน โดยมีภรรยาคือ คุณยายวิไล ที่นั่งในรถตอนเกิดเหตุด้วย ที่ยังคงมีอาการเคล็ดขัดยอกตามร่างกายบ้าง พร้อมด้วยบุตรชายมาเฝ้าดูอาการ
สภาพร่างกายภายนอกของคุณตาไกรฤกษ์มีเพียงแผลถลอกขีดข่วนที่หน้าผากเล็กน้อย เข่าบวมเนื่องจากถูกกระแทก และเล็บเท้าฉีกเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนกระดูกก็ไม่มีส่วนไหนหัก แต่แพทย์ได้ตรวจร่างกายแล้วพบว่าสมองมีเลือดออกเล็กน้อย จึงต้องให้นอนดูอาการก่อน 2 วัน
คุณตาไกรฤกษ์ และคุณยายวิไลเล่าให้ฟังว่า หลังเกิดเหตุมีเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องที่เห็นข่าวต่างก็โทรศัพท์ และแวะมาเยี่ยมเพราะคิดว่าคุณตาและคุณยายทั้งสองคนจะต้องได้รับบาดเจ็บค่อนข้างหนัก แต่เมื่อมาเยี่ยมแล้วพบว่าทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยต่างก็ดีใจ และสอบถามว่าเป็นเพราะอะไร
คุณตาไกรฤกษ์บอกว่า ของเหล่านี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ตนเลื่อมใสในองค์พระเจ้าตากสิน และแขวนพระสมเด็จอกครุฑติดตัวเป็นประจำ และทุกวันทั้งสองคนก็จะสวดคาถาชินบัญชร และคาถาอื่นๆ ก่อนนอนเป็นประจำ เวลาขับรถก็จะท่องไปด้วยเสมอ จึงเชื่อว่าที่ตน และคนอื่นๆ ที่ประสบเหตุไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต คงเป็นเพราะบารมีสิ่งเหล่านี้ที่ช่วยปกป้องคุ้มครอง
เมื่อถามว่าก่อนเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น คุณตาไกรฤกษ์ และคุณยายวิไลเล่าว่า ก่อนหน้านี้คุณตาไกรฤกษ์เคยมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทจนทำให้คางเบี้ยว แต่ได้รักษาตัวจนหายเป็นปกติมา 6-7 ปีแล้ว ช่วงหลังก็จะมีโรคความดันบ้าง และโรคเครียด ซึ่งก็รับประทานยาอยู่
กระทั่งเมื่อวานนี้คุณตารู้สึกว่าแขนชา จึงต้องการไปให้แพทย์ประจำที่เคยรักษา ซึ่งมีคลินิกอยู่ถนนบุญวาทย์ ก็คือเส้นทางที่ขับรถไป จึงขับรถออกจากห้างฯ โลตัสเข้ามาตามถนนสายเพ็ญทรัพย์ ก่อนจะผ่านหน้าโรงเรียนประวิทย์เพื่อจะแวะให้หมอตรวจร่างกาย
แต่เมื่อขับมาถึงใกล้ที่เกิดเหตุ คุณยายก็เห็นคุณตาขับรถชิดขอบทาง จึงได้เตือนว่าทำไมขับเข้ามาชิด..เดี๋ยวก็จะชนรถคันอื่น จากนั้นคุณตาก็บอกว่า “ขาเริ่มไม่มีแรง..” และรถเริ่มแฉลบชนรถด้านข้าง แต่คุณตาก็ยังตั้งสติได้ จึงประคองรถออกช่องกลางถนนเพื่อหลบหลีกรถที่อยู่ด้านข้าง แต่ก็เริ่มบังคับรถไม่ได้เพราะยกเท้าจากคันเร่งไปที่เบรกไม่ได้
จากนั้นก็ไม่สามารถคุมรถได้อีก จึงทำให้รถพุ่งชนรถที่อยู่ด้านหน้า ก่อนจะพุ่งตรงดิ่งไปยังหอนาฬิกา และมีรถเทศบาลฯ มาขวางจนชนด้านหน้า และรถพลิกคว่ำตามภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดดังกล่าว
“ขณะที่รถชนครั้งสุดท้าย และรถลอยขึ้นก็ไม่รู้สึกตัวแล้ว แต่ที่โชคดีคือทั้งสองคนคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ ทำให้ไม่กระเด็นออกมาจากรถขณะที่รถพลิกหมุนกลางอากาศ”
สองตายายยังบอกอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดีมากที่ไม่มีรถจักรยานยนต์ขี่มาด้านหน้า หรือตามหลังมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บไม่มาก และตนก็เจ็บไม่มากเช่นกัน ส่วนรถของกลางทั้งหมดขณะนี้ได้เก็บรักษาไว้ที่เก็บรถของกลาง สภ.เมืองลำปาง