xs
xsm
sm
md
lg

ตามรวบแล้ว.. พ่อเฒ่าวัย 63 ปีขับปิกอัพขยี้ซ้ำ จยย.ชนกันดับสยอง ที่ อ.ขุขันธ์ ศรีสะเกษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้
ศรีสะเกษ - คืบหน้าคดีชนสยอง! จักรยานยนต์ชนกัน ปิกอัพ -แท็กซี่ขยี้ซ้ำ ดับ 1 ศพ เจ็บ 2 ที่ อ.ขุขันธ์ ศรีสะเกษ ล่าสุดตำรวจตามจับปิกอัพที่เหยียบซ้ำได้แล้ว เจ้าของรถพ่อเฒ่าวัย 63 ปีรับสารภาพ อ้างมองไม่เห็น ส่วนขับถอยหลังเพราะต้องการหลบคนบาดเจ็บนอนอยู่ข้างหน้า ไม่มีเจตนาถอยทับซ้ำก่อนขับรถกลับบ้าน ด้านตำรวจแจ้งข้อหาหนัก ขับขี่รถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นตาย และหลบหนีไม่ให้การช่วยเหลือ



วันนี้ (14 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ 2 คันชนกันที่บริเวณสี่แยก ธ.ก.ส.อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้รถจักรยานยนต์คันหนึ่งพุ่งเข้าไปในเลนขวามือและมีรถแท็กซี่วิ่งสวนมา จึงได้ชนรถจักรยานยนต์ที่กำลังไถลไปตามถนนอย่างจังทำให้รถจักรยานยนต์ถูกชนกระเด็นกลับมาทางชายคนที่สวมเสื้อสีเขียวที่ถูกชนนอนอยู่กลางถนน รถจักรยานยนต์ที่ถูกแท็กซี่ชนได้กระเด็นไปชนรถจักรยานยนต์ที่ล้มคว่ำอยู่ ขณะที่ชายวัยรุ่นที่นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์มาด้วยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยได้เข้าไปดูอาการของคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกรถแท็กซี่ชน โดยได้ทำการปั๊มหัวใจ แต่ปรากฏว่าได้มีรถยนต์ปิกอัพสีแดงคันหนึ่งขับมาตรงที่คนเจ็บนอนอยู่และกำลังมีการปั๊มหัวใจ ชายวัยรุ่นพยายามยกมือโบกเตือนให้ทราบว่ามีคนเจ็บนอนอยู่ แต่รถปิกอัพได้เหยียบซ้ำและลากคนเจ็บไปไกลประมาณ 5 เมตร ชายวัยรุ่นกระโดดหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด โดยคนขับรถปิกอัพได้ลงจากรถมาดู เมื่อพบว่ามีศพติดอยู่ใต้รถได้ขับรถถอยหลังเพื่อให้ศพหลุดออกจากใต้ท้องรถ จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไปทันที

โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 คน คือ นายอนุชิต หรือแบงค์ บาลิศรี อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และมีนายพันธวัช หรือคิม นามโคตร อายุ 15 ปี นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และชายสวมเสื้อสีเขียวคือ นายประวิทย์ จันทร์คอย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 1 บ้านท่าบ่อ ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด ร.ต.อ.บุญลักษณ์ เหลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดร้านใกล้เคียง และเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาทำการสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ  สอบสวน นายบุญลือ  ยอดมณี  อายุ 63 ปี  ชาวอ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ คนขับรถกระบะสีแดงเหยียบซ้ำ จยย.ชนกัน ทำให้มีคนเสียชีวิต 1 ราย
ล่าสุดที่ สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ จันทร์สอน ผกก.สภ.ขุขันธ์ และ ร.ต.อ.บุญลักษณ์ เหลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ซึ่งเป็นร้อยเวรเจ้าของคดีนี้ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ขุขันธ์สามารถติดตามจับกุมคนขับรถปิกอัพ ยี่ห้อนิสสัน สีแดง เสริมกระบะด้านท้าย หมายเลขทะเบียน บก 8954 ศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าของรถคือ นายบุญลือ ยอดมณี อายุ 63 ปี ชาวบ้านตาโสม ต.ตะเคียนราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ที่เป็นผู้ขับขี่รถไปเหยียบ นายอนุชิต หรือแบงค์ บาลิศรี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่กลางถนน จนทำให้นายอนุชิตเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้แล้ว พร้อมทั้งได้นำรถปิกอัพ และติดตามนำเอารถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทข 9 ศรีสะเกษ มาจอดไว้ที่ สภ.ขุขันธ์

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายบุญลือ ยอดมณี ผู้ขับขี่รถไปเหยียบนายอนุชิตจนทำให้เสียชีวิต ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเดินทางกลับมาจาก อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ซึ่งเป็นบ้านเกิด และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุไม่ทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่กลางถนน โดยได้ขับรถมาช้าๆ และรถได้เหยียบร่างของนายอนุชิต ซึ่งขณะนั้นรู้สึกเพียงว่าเหมือนกับรถเหยียบไปบนก้อนหิน ไม่คิดว่าจะเป็นคนบาดเจ็บนอนอยู่กลางถนน

ต่อมามีคนที่อยู่ข้างทางร้องบอกว่าตนขับรถชนคนอยู่ใต้ท้องรถ ดังนั้นจึงได้จอดรถและเปิดประตูลงมามองหาว่ามีคนอยู่ใต้ท้องรถหรือไม่ แต่ปรากฏว่าไม่เห็นใคร เห็นเพียงคนบาดเจ็บนอนอยู่กลางถนนห่างออกไปประมาณ 3 เมตร ดังนั้นจึงได้ถอยรถเพื่อที่จะหักหลบคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ด้านหน้ารถ จากนั้นได้ขับรถกลับบ้าน ไม่ได้มีเจตนาที่จะถอยรถเพื่อเหยียบซ้ำร่างของนายอนุชิตแต่อย่างใด


ขณะที่ นายสมพล โพธิ์ศรีสุข อายุ 55 ปี ชาว ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ คนขับรถแท็กซี่ที่เกิดเหตุถูกรถจักรยานยนต์พุ่งมาชนในเลนของตัวเอง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมารับผู้โดยสารที่ตัว อ.ขุขันธ์ และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ 2 คันได้เฉี่ยวชนกัน และรถจักรยานยนต์คันหนึ่งได้เสียหลักพุ่งข้ามเลนมาชนรถแท็กซี่ที่ตนขับขี่มา ซึ่งตนเห็นว่ารถเสียหายเล็กน้อยจึงขับรถไปส่งผู้โดยสารยังจุดหมายและไม่ทราบว่าคนขี่รถจักรยานยนต์ที่มาชนรถของตนในช่องทางเดินรถของตนจะเสียชีวิต เพราะตนขับมาในช่องทางเดินรถของตนแต่รถจักรยานยนต์ได้พุ่งมาชนรถแท็กซี่ในเลนของตนเอง ซึ่งไม่ได้ขับรถไปชนรถจักรยานยนต์ของนายอนุชิตที่เสียชีวิตแต่อย่างใด

ร.ต.อ.บุญลักษณ์ เหลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ เจ้าของคดี กล่าวว่า จากการที่ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ จันทร์สอน ผกก.สภ.ขุขันธ์ ได้สั่งการให้ทำการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แล้ว ตนได้ตั้งข้อหากับนายบุญลือว่า ขับขี่รถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถหลบหนีไปโดยไม่ให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากต้องสอบสวนพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อน และขณะนี้ได้ตรวจยึดรถปิกอัพ ยี่ห้อนิสสัน สีแดง เสริมกระบะด้านท้าย หมายเลขทะเบียน บก 8954 ศรีสะเกษ ของนายบุญลือ และรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทข 9 ศรีสะเกษ เอาไว้เพื่อให้ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบในวันที่ 15 ม.ค. เพื่อตรวจพิสูจน์หาข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ต่อไป

(หมายเหตุ - ขอบคุณภาพบางส่วนจากเฟซบุ๊ก คนขุขันธ์)




กำลังโหลดความคิดเห็น