แชร์ว่อน หนุ่มเมาเข้าตัดไหม รพ.บึงโขงหลง ด่าลั่นขึ้นมึงกูปรี่จะชกเจ้าหน้าที่(ชมคลิป)

บึงกาฬ - เปิดคลิป หนุ่มวัย 42 เมาเหล้าเข้าไปตัดไหมทำแผลในห้องฉุกเฉิน รพ.บึงโขงหลง เอะอะโวยวายส่งเสียงดัง ถูกเตือนให้พูดเบาลงกลับขึ้นเสียงด่ามึงกู เรียกไอ้หมา ไอ้ควาย ซ้ำจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่



แชร์กันสนั่นโซเชียล ภาพเหตุการณ์นายไกรศักดิ์ ไขแสง อายุ 42 ปี ชาวตำบลโพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เมาเหล้าเข้าไปในห้องฉุกเฉิน รพ.บึงโขงหลง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำแผลและตัดไหมให้ แต่ได้ใช้คำพูดมึงกูเอะอะโวยวายส่งเสียงดังจนถูกเตือนไม่ให้พูดเสียงดังรบกวนคนไข้ นายไกรศักดิ์กลับขึ้นเสียงด่าทอเจ้าหน้าที่ เรียกไอ้หมา ไอ้ควาย แล้วเดินปรี่คล้ายจะเข้ามาทำร้าย

แต่ภรรยาที่มาด้วยได้เข้าไปห้ามปราม แล้วรีบพาออกไปจากห้องฉุกเฉินกลับบ้านทันที เหตุเกิดตอนกลางดึกคืนวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา


ล่าสุดเช้าวันนี้ (10 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นายอดิศักดิ์ บุตรพรม อายุ 29 ปี ผู้ช่วยเหลือคนไข้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าว่า คืนเกิดเหตุได้เข้าเวร 4 คนตามปกติ มีพยาบาล 2 คน เจ้าพนักงานเวชกิจฉุกเฉิน 1 คน และตนเอง ทันใดนั้นมีนายไกรศักดิ์ ไขแสง เกิดอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนและใบหน้า ภรรยาพามาทำแผลและตัดไหมแผลเก่าถูกมีดบาดที่นิ้วชี้

โดยเดินขึ้นไปบนเตียงคนไข้ถอดเสื้อออก มีเสียงภรรยาบอกว่า “ล้างแผลด้วย” นายไกรศักดิ์บอกว่า “ไม่ล้าง ตัดไหมให้กูก่อน” พอตนเตือน “พูดดีๆ ครับ” นายไกรศักดิ์จึงลงมาจากเตียงปรี่เข้ามาหาพร้อมกับมือชี้หน้าพูดว่า “เป็นหยังหมอ จะรักษาคนป่วยอยู่บ่” จึงตอบไปว่า “รักษาๆ” นายไกรศักดิ์จึงพูดสวนกลับมาว่า “กูบ่รักษาถ้าบ่ตัดไหมให้กูก่อน งั้นกูกลับ”

พร้อมกับหยิบเอาเสื้อจะเดินออกจากห้องฉุกเฉินแต่ภรรยาดึงเอาไว้ให้ล้างแผล แต่ยังยืนยัน “กูจะตัดไหม” และมีคำด่าส่งท้ายว่า “มึงง่วงนอนบ่บักหมา” แล้วเดินออกจากห้องไป

หลังจากผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง มีผู้ชาย 2 คนน่าจะเป็นญาติได้พานายไกรศักดิ์กลับมาล้างแผล แต่ก็ยังมีอาการเมา ส่งเสียงดังอีก จึงได้โทร.แจ้งตำรวจให้มาช่วยระงับเหตุ คราวนี้ถูกเชิญไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.บึงโขงหลง ก่อนที่ตำรวจสายตรวจพากลับมาล้างแผลและตัดไหมที่นิ้วมือจนแล้วเสร็จ

ด้าน นพ.ปราโมทย์ ศรีแก้ว ผอ.รพ.บึงโขงหลง กล่าวว่า คืนวันนั้นมีเจ้าหน้าที่เป็นพยาบาลหญิง 2 คน และเจ้าหน้าที่ชาย 2 คน เข้าเวรในห้องฉุกเฉินสร้างความตกอกตกใจแก่พยาบาลหญิงทั้ง 2 พอสมควร เกรงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

โชคยังดีที่เจ้าหน้าที่ชาย 2 คนมีสติจึงได้ออกไปอยู่ห่างๆ ไม่อยากให้เรื่องบานปลายใหญ่โตอะไร และไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี ขอเพียงให้ผู้ที่ก่อเหตุมาขอโทษขอโพยกันก็จบแล้ว