พนักงานรถโดยสาร บขส. กรุงเทพฯ - เกาะสมุย แจงกรณีให้ครอบครัวพ่อแม่ลูกสองลงจากรถกลางทางที่ชะอำ เพราะร้องไห้ตั้งแต่สมุทรสาครเรื่อยมา ผู้โดยสาร และพนักงานขับรถคนที่ 2 แทบไม่ได้นอน จึงเสนอทางออก รับตัดสินใจพลาดก็พร้อมขอโทษ แต่อยากให้เห็นใจผู้โดยสารคนอื่นด้วย
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ระหว่างนั่งรถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด จากกรุงเทพฯ ไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เที่ยวเวลา 20.00 น. ของวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า มีพนักงานประจำรถได้เชิญผู้โดยสาร ประกอบด้วย สองสามีภรรยา และเด็กเล็กอีก 2 คน ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในช่วงกลางดึก หลังจากพบว่าเด็กร้องไห้เสียงดังรบกวนผู้โดยสาร และคนขับรถคนที่สอง พร้อมทั้งถามผู้บริหารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด ว่า เหมาะสมหรือไม่ ที่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถกลางทางตอนกลางคืน เพียงแค่เด็กร้องไห้เสียงดัง ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 8 ม.ค. นายวรกิตติ ไชยชนะ หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาอำเภอเกาะสมุย ได้เชิญตัว นายสถาพร อยู่เกิด พนักงานขับรถคนที่ 1 นายกิตติพงศ์ สายสุด พนักงานขับรถคนที่ 2 และ นายวันชัย แก้วเจริญ พนักงานประจำรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด มาสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งนายวันชัย ชี้แจงว่า เด็กเล็กที่มากับผู้ปกครองร้องไห้เสียงดังตั้งแต่ จ.สมุทรสาคร เป็นระยะเวลานาน ทำให้ผู้โดยสารไม่ได้พักผ่อนทั้งคืน รวมทั้งพนักงานขับรถคนที่ 2 กระทั่งมีชาวต่างชาติไม่สบายใจมาร้องเรียน จึงเสนอทางออกให้ครอบครัวลงรถที่ปั๊มน้ำมัน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และเดินทางต่อไปในช่วงเช้า ซึ่งที่นั่นมีโรงแรมและคิวรถตู้ ไม่ได้เป็นที่เปลี่ยวแต่อย่างใด ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าว ตนไม่สบายใจที่ชาวโซเชียลออกมาตำหนิ หากเป็นการตัดสินใจผิดพลาดก็พร้อมที่จะขอโทษ แต่อยากให้เข้าใจผู้โดยสารคนอื่น รวมทั้งพนักงานขับรถคนที่ 2 ที่ต้องสับเปลี่ยนทุก 4 ชั่วโมง
นายวรกิตติ กล่าวว่า เบื้องต้นต้องรอให้ผู้โดยสารที่ถูกเชิญลงจากรถมาให้รายละเอียด เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และจะทำหนังสือรายงานกองตรวจการขนส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารต้นทาง การที่นายวันชัยเชิญผู้โดยสารลงจากรถเป็นการตัดสินใจโดยพลการ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทั้งที่โดยหลักการแล้วจะต้องนำผู้โดยสารไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้หัวหน้าสถานีขนส่งตัดสินใจ หากเด็กร้องไห้เพราะไม่สบายจะประสานงานไปยังโรงพยาบาล หรือหากจะหยุดพัก ให้เด็กหยุดร้องไห้แล้วค่อยเดินทางต่อ ก็จะสามารถต่อรถได้สะดวก
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้โดยสารที่ถูกเชิญให้ลงจากรถกลางทาง คือ นายมงคล ทองโบราณ ซึ่งมาพร้อมกับภรรยา และลูกอีก 2 คน โดยญาติของนายมงคล ระบุว่า ทั้ง 4 คนเดินทางจาก จ.ปราจีนบุรี เพื่อมาหางานทำที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แต่ต้องถูกเชิญให้ลงจากรถเพราะลูกร้องไห้เสียงดัง และได้โทรศัพท์ไปหาญาติเพื่อขอให้โอนเงิน เนื่องจากเงินเหลือติดตัวเพียง 500 บาท ต้องเปิดห้องพักรายวัน เหลือเงินติดตัวเพียงแค่ 25 บาท เพื่อที่จะได้เดินทางต่อ กระทั่งเช้าวันที่ 8 ม.ค. ครอบครัวได้เดินทางโดยรถไฟจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาถึงสถานีรถไฟพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนที่ญาติจะเดินทางมารับและเดินทางต่อไปยังเกาะสมุย กระทั่งข้ามเรือจากท่าเรือดอนสัก มาถึงท่าเรือเกาะสมุย เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา