ผู้ใหญ่ถามตลอด..ยันสอบวินัย “อดีต ผอ.อนุบาลลำปาง” เดินหน้าไม่หยุด

ลำปาง - รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดฯ ยันการสอบวินัยร้ายแรง “อดีต ผอ.โรงเรียนอนุบาลลำปาง” เดินหน้าตามขั้นตอน บอกผลสอบอยู่ในมือแล้ว รอชงเรื่องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการต่างๆ ตามลำดับ ผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ ถามตลอด

วันนี้ (10 ม.ค.) นายธนาวัฒน์ คำราช รองศึกษาธิการจังหวัด รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายประยูร เรียนปิงวัง อดีต ผอ.โรงเรียนอนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) หลังถูกกล่าวหาว่าเบียดบังเอาเงินของโรงเรียนไปใช้ส่วนตัวมากกว่า 42 ล้านบาท ว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงได้ดำเนินงานเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว และได้ส่งรายงานทั้งหมดมาถึงตนเป็นที่เรียบร้อย

ขั้นตอนต่อไปคือ ตนจะได้ตรวจสอบความถูกต้องของรายงานทั้งหมดก่อน จากนั้นก็จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัดลำปาง (อกศจ.) ซึ่งมี ดร.สมาน ฟูแสง เป็นประธานฯ เมื่อได้มติของ อกศจ.แล้วก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ กศจ.ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นประธาน เพื่อมีมติในเรื่องดังกล่าว

และหลังจากนั้นก็จะส่งมติให้กับ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 เมื่อ ผอ.สฟป.ลำปางเขต 1 ได้รับเรื่องแล้ว ก็จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ทักท้วงอีกครั้ง โดยให้เวลาประมาณ 30 วัน เมื่อหมดเขตแล้วก็จะส่งเรื่องไปยังกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้พิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งในชั้นนี้ เมื่อกระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ผู้ถูกกล่าวหาก็ยังมีโอกาสอุทธรณ์คำสั่งได้อีก ซึ่งในแต่ละขั้นตอนก็จะมีระยะเวลาที่กำหนดตามระเบียบ

นายธนาวัฒน์กล่าวอีกว่า ในส่วนของตนเมื่อได้รับรายงานผลการสอบสวนแล้ว แม้จะทราบทิศทางของผลการสอบสวน แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลในส่วนนี้ได้เพราะยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ ส่วนจะนำเรื่องเข้าสู่ อกศจ.ได้เมื่อไหร่ ตนก็ยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากต้องมีการตรวจรายงาน และวัน เวลาในการประชุม ซึ่งแต่ละเดือนต้องดูความพร้อมของแต่ละหน่วยงานด้วย ซึ่งก็จะมีเวลาว่างไม่ตรงกัน

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำทุกอย่างตามระเบียบขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด แม้ว่าบางครั้งบุคคลภายนอกที่ติดตามเรื่องดังกล่าวอาจจะมองว่า คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทำงานล่าช้า แต่ต้องเข้าใจว่าทุกคนทุกฝ่ายต้องทำงานตามกรอบเวลา และต้องทำด้วยความรอบคอบด้วย

“อยากให้ทุกคนสบายใจว่าแม้ผลการสอบสวน หรือคำสั่งจะออกมาอย่างไรก็ตามก็จะมีผลย้อนหลังทั้งหมดอยู่แล้ว และขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาในระดับกระทรวงเองก็ติดตาม และสอบถามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน”