บุรีรัมย์- ผู้การฯ ตร.บุรีรัมย์ เต้นตั้งกรรมการสอบกำกับดูแลเร่งรัดสอบสวนคดียักยอกเงินสหกรณ์เกษตรลำปลายมาศ 100 ล้าน เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดี คาดส่งฟ้องอัยการได้ภายใน 2-3 วันนี้ เผยพบผู้ร่วมกระทำผิด 4 ราย เป็น จนท.2 บุคคลภายนอก 2 ส่วนกรณีที่ ผกก.สภ.ลำปลายมาส แจ้งจับชาวบ้านที่มาชุมนุมเร่งรัดคดี ต้องสอบถึงเจตนา และข้อเท็จจริงอีกครั้ง
วันนี้ (21 มิ.ย.) พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.จว.) บุรีรัมย์ ได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีตัวแทนกลุ่มสหกรณ์ในพื้นที่อำเภอลำปลายมาศ ชุมนุมเรียกร้องที่หน้าที่ว่าการอำเภอ และหน้า สภ.ลำปลายมาศ เมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) นี้ เพื่อติดตามทวงถาม และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีที่ร่วมกับบุคคลภายนอก ยักยอกเงินสหกรณ์การเกษตรลำปลายมาศ จำกัด วงเงินร่วม 100 ล้านบาท เนื่องจากได้มีการแจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.60 ที่ผ่านมา แต่คดีไม่คืบหน้านั้น
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่า พนักงานสอบสวนได้ทำการสืบสวนสอบสวนมาตลอด แต่เนื่องจากทางสหกรณ์ได้มาแจ้งความเพิ่มเติมรวม 4 ครั้ง โดยตอนแรกแจ้งข้อหา “ฉ้อโกง” ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อผู้กระทำผิดแล้ว 2 ราย ต่อมา อีก 1 เดือนสหกรณ์มาแจ้งข้อหาเพิ่ม “ปลอมแปลงเอกสาร” จึงมีการสอบเพิ่มเติม จากนั้นมาแจ้งข้อหา “รับของโจร” มีผู้ต้องหาร่วมกระทำผิดเพิ่มอีก 2 คน และล่าสุด ได้มาแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์นายจ้าง” ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนตามที่มีแจ้งเพิ่มเติมไปเรื่อย จึงเป็นเหตุให้คดีล่าช้า และทำให้ทางกลุ่มผู้เสียหายต้องมาชุมนุมเร่งรัดคดีดังกล่าว
จากกรณีดังกล่าว ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เข้าไปควบคุมสำนวนการสอบสวนด้วยตนเอง ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสำนวนเบื้องต้น พบว่า สำนวนพร้อมที่จะส่งฟ้องผู้ต้องหาได้ภายใน 2-3 วันนี้ พร้อมกันนี้ ยังจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนระดับภูธรจังหวัด เข้าไปควบคุมการสอบสวนเพื่อให้ความรวดเร็ว ซึ่งหากทางสหกรณ์ หรือผู้เสียหายต้องการจะแจ้งความเพิ่มเติมสามารถเข้ามาแจ้งต่อคณะกรรมการฯ ที่ทางภูธรจังหวัดแต่งตั้งขึ้นได้ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่า มีผู้ร่วมกระทำผิดลักทรัพย์ ยักยอกเงินสหกรณ์ 4 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 2 ราย และบุคคลภายนอก 2 ราย
ส่วนกรณีที่ทางผู้กำกับการ สภ.ลำปลายมาศ แจ้งความกล่าวหาว่า ชาวบ้านมาชุมนุมเรียกร้องหน้าโรงพักซึ่งผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะนั้น ในฐานะผู้กำกับซึ่งสามารถกระทำได้ แต่จากการสอบถามข้อมูลแล้วเจตนาของชาวบ้านที่มาชุมนุมเพื่อต้องการเร่งรัดความคืบหน้าคดีให้มีความรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะดูข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป