xs
xsm
sm
md
lg

เริ่มเดือด “หลวงพี่น้ำฝน” โต้ “พระพยอม” อย่าโยงทำ “กระเป๋ามหามงคล” เทียบชั้นโครงการ “ก้าวคนละก้าว”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - “หลวงพี่น้ำฝน” โต้ “พระพยอม” บอกทำเรื่องกระเป๋ามหามงคล คิดมานานกว่า 7 ปี กว่าจะผลิตออกจำหน่าย ตั้งใจช่วยโรงพยาบาล อย่าโยงเทียบชั้น “ก้าวคนละก้าว” คนละเรื่องกัน เพราะวัดไผ่ล้อมไม่ได้ขอบริจาค แต่เป็นการร่วมทำบุญจากศรัทธา ไม่ได้สร้างความงมงายในเรื่องโชคลาภจากกระเป๋า

กระแสร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากวัดไผ่ล้อมได้เปิดตัวกระเป๋ามหามงคล “พูล เพิ่ม ทรัพย์” ซึ่งทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวัดไผ่ล้อมบอกว่า เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับกระเป๋าที่จะเป็นการเสริมเสริมบุคลิกราศี โชคดีมีลาภ ถูกโฉลกร่ำรวย เติมเต็มยอดเงินทองไหลมาเทมา เมตตามหานิยม

โดยมีทั้งกระเป๋าใส่เงิน กระเป๋าสะพาย และกระเป๋าหิ้วหลากหลายรูปแบบ โดยมีหลายคนออกมาวิจารณ์ว่า เหมือนกับกระเป๋าหลุยส์วิตตอง กระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังระดับโลก ซึ่งพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ออกมาบอกว่า กระเป๋าที่ผลิตออกมาจำหน่ายนั้นจะเป็นการนำรายได้ไปช่วยสนับสนุนการก่อสร้างอาคารรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม แต่ได้รับการคัดค้านและไม่เห็นด้วยจากพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดป่าสวนแก้ว ถึงความไม่เหมาะสม และกระเป๋าดังกล่าวจะไม่สามารถนำเงินทองเข้ากระเป๋าได้ และหากจะนำรายได้ไปช่วยสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์นั้น คำถามคือ กระเป๋าดังกล่าวจะสามารถสู้กับการหารายได้จากการวิ่งของตูน บอดี้สแลม ได้หรือไม่ จนเกิดเป็นกระแสสองฝั่งที่มีแนวความคิดต่างกัน

โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ออกมาแสดงความเห็นตอบโต้กับสิ่งที่พระพยอมได้ออกมาแสดงความเห็นว่า กระเป๋าที่ได้ออกมาจำหน่ายนั้นเป็นความตั้งใจมาตั้งแต่ 7 ปีแล้ว และเพิ่งมาเจอผู้ผลิตที่ทำงานได้สวยงาม และวัตถุมงคลต่างๆ นั้นสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึก เป็นกำลังใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ มิใช่สร้างให้หลงงมงาย อิทธิและปาฏิหาริย์ แต่เกิดจากแรงศรัทธาของญาติโยม เป็นเรื่องของใครที่อยากจะช่วยร่วมบุญกับหลวงพี่ และหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสที่ล่วงลับ

ส่วนกระแสที่พระพยอมได้บอกว่ากระเป๋านี้จะมาสู้กับกระแสของคุณตูน บอดี้สแลม ต้องบอกว่าอย่าเอามาเทียบกัน และต่างกัน เพราะอาตมามีญาติโยมมาถวายปัจจัยให้ ซึ่งอาตมาก็มีของที่ระลึกให้กลับไป มันต่างกันตรงที่ ตูน บอดี้แสลม นั้นเป็นการวิ่งเพื่อขอรับเงินบริจาค ถือว่าเป็นการทำดีและน่ายกย่อง แต่อย่าเอามาเทียบกันเพราะมันต่างกัน ตนทำมาหลายปีแล้วให้กลับไปดูว่าที่ผ่านมา ทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล หรือแม้แต่การสนับสนุนกิจกรรมของตำรวจก็ทำมาโดยตลอดหลายปีแล้ว อยากจะให้ไปดูว่าอาตมาทำอะไรไปบ้าง และไม่เคยไปเรี่ยไร หรือขอรับบริจาคจากใคร เพราะนโยบายวัดไผ่ล้อมนั้นไม่ได้มีการทำแบบนั้น ซึ่งก็เป็นมาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อพูลยังคงอยู่ และท่านสอนมาอย่างนี้ คือ การมอบของที่ละลึกให้แก่ญาติโยม คือ มันเปรียบกันไม่ได้

สำหรับกรณีความเห็นต่อพระพยอมนั้นก็ต้องขอถวายความเคารพ เพราะท่านเป็นพระชั้นราช ส่วนตนนั้นเป็นพระผู้น้อย แต่ว่าพระผู้น้อยนั้นได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคมมามากมาย พระเดชพระคุณจะทำอะไรให้แก่สังคมก็ทำไปก็ดีแล้ว ตนก็ทำประโยชน์ตามแนวทางไป แต่ถ้ามาเทียบชั้นกัน ตนอายุน้อยขนาดนี้ พระเดชพระคุณอายุเท่านั้น ถามว่าจะมีสติปัญญา จะมีสมอง จะทำอะไรเพื่อสังคมได้ไหม นี่คือการเสียสละ นั่นคือการปลงนั่นเอง

“เพราะฉะนั้น คนเราต้องเกิดแก่ เจ็บ ตาย ตามรอยที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้ให้แนวทางไว้ พระเดชพระคุณเคยทำความดีอะไรไว้ก็ดีแล้ว อาตมาก็ทำความดีไม่เคยด่างพร้อยใดๆ ทั้งสิ้น ฉะนั้นไปดูเอาครับ ใช้สองตาดูเอาว่ามีอะไรบ้าง อาตมาพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจที่สุด และด้วยความเคารพต่อพระผู้ใหญ่ ฉะนั้นในระยะการบวชของอาตมา 20 กว่าปี ก็ทำมาตลอด นั่นคือการปลงได้”

ขณะนี้มีการสั่งกระเป๋า และผ้าพันคอสาลิกา มหาเสน่ห์ เพียงวันเดียว 2 แสนกว่าบาท ถ้านับจากการเปิดตัวถึงวันนี้มียอดจำหน่ายไป 1 ล้านกว่าบาท ซึ่งผู้ที่นิยมสั่งซื้อมาบูชาส่วนใหญ่ช่วงนี้จะเป็นลูกศิษย์ชาวจีนที่มีการสั่งปากต่อปาก ซึ่งทางวัดจะมีการประชาสัมพันธ์โครงการนี้อีกครั้งเพื่อนำรายได้มาสนับสนุนเพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ที่ต้องใช้เงินอีกจำนวนมาก





กำลังโหลดความคิดเห็น