นครปฐม - บริษัทประกันภัย ส่งทีมเร่งกู้ซากสะพานหลวงปู่ย้อย วัดไทยาวาส หลังถูกเรือชนถล่ม ขอ 5 วันเก็บซากขึ้นจากน้ำ โดย หัวหน้าทีม ปัดให้ข้อมูลสื่อในวิธีการกู้ซาก ท่ามกลาง ชาวบ้านหวั่นนักดำน้ำจมหาย หลังเห็นอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน ขณะนายกอบต. ประสานเจ้าหน้าที่ไม่หยุดปีใหม่ จัดเรือรับส่งชาวบ้าน ทุกวันข้ามปี จนกว่าสะพานใหม่จะสร้างเสร็จสิ้น
วันนี้( 30 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สะพานหลวงปู่ย้อย วัดไทยาวาส ต.ไทยวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้มีเรือบรรทุกรถเครนและคนงาน เข้ามาเทียบจอดอยู่ที่บริเวณกลางแม่น้ำท่าจีน โดยมีการตั้งแคมป์ อยู่ฝั่งตำบลขุนแก้ว โดยขาวบ้านบอกว่าเรือลำดังกล่าวได้เข้ามาจอดตั้งแต่ช่วงเช้า และได้มีช่างหลายคนลงไปสำรวจใต้ผิวน้ำ โดยใช้เครื่องมือหลายอย่างมาทำการสำรวจและพยายามจะเร่งเก็บซากสะพานที่จมอยู่ใต้ผิวน้ำนานกว่า 2 สัปดาห์ โดยมีชาวบ้านหลายคนที่ให้ความสนใจ ได้เข้ามาดูการดำเนินการดังกล่าว ตลอดทั้งวัน
ทั้งนี้ พบว่าเรือที่มาจอดมี 2 ลำ โดยลำแรกเป็นเรือลำใหญ่ มีรถเครนบรรุกอยู่กลางลำเรือและมีหัวหน้าช่างและคนงานเกือบสิบคนได้เข้ามาทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ ซี่งมีการส่งนักดำน้ำลงไปสำรวจใต้ผิวน้ำ โดยใช้เครื่องปั๊มลม ใส่สายยาง สอดเข้าทางหน้ากากดำน้ำ ให้นักดำน้ำ 3-4 คน ลงน้ำสายสลิงไปคาดว่าไปคล้องซากสะพานเพื่อจะใช้เครนทำการยกขึ้น ซื่งหลายคนบอกว่า หวั่นจะเกิดอุบัติเหตุ ที่นักดำน้ำอาจจะประสบอุบัติเหตุจมน้ำได้ เนื่องจากไม่ได้ใช้ ถังออกซิเจนที่เป็นมาตรฐาน
จากการสอบถาม หัวหน้าคนงาน ไม่ได้แจ้งว่ามาจากบริษัทแห่งใด และไม่ขอให้ข้อมูลในการทำงานว่าจะมีการกู้ซากสะพานขึ้นอย่างไร และให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่ทันที
ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านได้เดินทางมารอขึ้นเรือท้องแบน ซึ่ง องค์บริหารส่วนตำบลไทยาวาส ได้จัดให้มีการรับส่งชาวบ้านตั้งแต่หลังวันเกิดเหตุ ซึ่งหลายคนบอกว่าเกิดความลำบากกับการใช้ชีวิตประจำวัน จากที่เคยต้องข้ามสะพาน แต่วันนี้ต้องมานั่งเรือแทน
โดย นางทิพวรรณ สุภิเสก อายุ 59 ปี ชาวบ้านตำบลไทยาวาส บอกว่า หลังเกิดเหตุก็ใช้บริการเรือท้องแบนเป็นประจำซึ่งตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าจำเป็นต้องมีการใช้เรือไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาผู้นำชุมชน อบต.ไทยาวาส ก็จะเรือมาบริการเป็นอย่างดี และทำให้สะดวกกว่าการไม่มีเรือ ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ และรอให้มีสะพานกลับมาอีกครั้ง
นางธนพร สะพังทอง อายุ 67 ปี บอกว่าทำงานอีกฝั่งแม่น้ำ ตอนนี้ลำบากเพราะต้องปรับเวลาตื่นนอนไปทำงาน เนื่องจากที่ทำงาน ไม่ให้สายเกิน 3 ครั้งถ้าสายก็จะต้องถูกไล่ออก จึงจำเป็นต้องมาขึ้นเรือทุกวันไปกลับ โดยอยากได้สะพานกลับมาโดยไว และวันนี้หลานสาวและญาติ ก็เพิ่งถูกรถชนเสียชีวิตทั้งคู่จะรีบไปรดน้ำศพ และซื้อของไปถวายพระก็ต้องใช้จักนายนต์ขนข้ามแม่น้ำกับไป ตอนนี้ลำบากจริง ๆ และต้องปรับชีวิตใหม่อีกครั้งตอนแก่
ขณะที่ นายประสาท รับพรพระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทยาวาส กล่าวว่า สำหรับบริษัที่มาทำการกู้ซากสะพาน บริษัทวิริยะประกันภัย และบริษัททะเลไทย ได้ว่าจ้างมา โดยรับปากว่า หลังจากเริ่มกู้ซากจะใช้เวลา 5 วัน ให้แล้วเสร็จ ซึ่งเรื่องต่อมาคือการประเมินการก่อสร้างก็จะเป็นอีก 2 เดือน จาการกู้ซากเสร็จสิ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างสะพานใหม่ทั้งหมด โดยงบประมาณของบริษัทประกันภัยและบริษัทน้ำมันพืช ที่จะออกค่าใช้จ่าย ส่วนของอบต.ไทยาวาส ได้ขอความร่วมมือกับพนักงานให้เข้ามาผลัดเวรกันขับเรือส่งผู้โดยสาร ทุกวัน ไม่หยุดแม้ช่วงปีใหม่ ซึ่งจะเป็น 8-9 เดือนก็จะบริการประชาชน อย่างเต็มที่ แน่นอน