ศรีสะเกษ - หนุ่มใหญ่ศรีสะเกษ ขอชีวิตคืน หลังถูกทางราชการระบุเสียชีวิต และยัดศพชายนิรนามให้ญาตินำมาเผา บุกพบนายอำเภอโนนคูณ ขอความช่วยเหลือ นอภ.สั่งช่วยด่วนเร่งสอบดำเนินการประสานงานกรมการปกครองเพื่อแก้ไข และจี้หน่วยงานออกมรณบัตรยกเลิก คืนสิทธิเหตุแจ้งผิดพลาด ขณะเจ้าตัวดีใจเหมือนเกิดใหม่ ขอทำมาหากินอยู่ที่บ้าน ไม่ไปทำงานต่างถิ่นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายสว่าง ไกรษี ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านเหล่าฝ้าย พร้อมด้วย นายเจริญ เหล็กดี อายุ 55 ปี นักการภารโรง โรงเรียนบ้านเหล่าฝ้าย นายนครชัย พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี นายบุญหลาย พาชื่น อายุ 59 ปี และญาติพี่น้องได้นำตัว นายสาคร สาชีวะ อายุ 44 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนว่า นายสาคร ถูกทางราชการระบุว่าเสียชีวิตแล้ว ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากไปทำงานบนเรือประมงที่ จ.นครศรีธรรมราช นานกว่า 1 ปี และเมื่อกลับมาถึงบ้านปรากฏว่า ญาติพี่น้องได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพชายคนหนึ่งที่ทางราชการระบุว่า เป็นศพของนายสาคร และได้ทำบุญนำเอาอัฐิเข้าไว้ในเจดีย์เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ นายวีระศักดิ์ แม่นทอง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้าย ยืนยันว่า ได้ตรวจสอบแล้วเป็น นายสาคร ลูกบ้านของตนจริง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่ว่าการอำเภอโนนคูณ จ.ศรีสะเกษ นายสว่าง ไกรษี ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านเหล่าฝ้าย พร้อมด้วย นายวีระศักดิ์ แม่นทอง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้าย นายเจริญ เหล็กดีอายุ 55 ปี นักการภารโรง โรงเรียนบ้านเหล่าฝ้าย และญาติพี่น้องได้นำตัว นายสาคร สาชีวะ อายุ 44 ปี หนุ่มที่ถูกคิดว่าเสียชีวิต และเผาศพไปแล้ว เดินทางไปพบกับ นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอโนนคูณ และนายเฉลิม ณิชกุล ปลัดอาวุโส นางทองพูน ไวยพันธ์ ปลัดอำเภอ ฝ่ายทะเบียน อ.โนนคูณ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดย นายสว่าง และนายวีระศักดิ์ ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้นายอำเภอโนนคูณ และคณะได้ทราบอย่างละเอียด พร้อมทั้งนำเอาหลักฐานหนังสือรับรองการตาย และใบมรณบัตรที่เป็นชื่อของ นายสาคร มาให้ตรวจสอบหลักฐาน ซึ่งจากการที่นายอำเภอโนนคูณ ได้ตรวจสอบหลักฐานแล้ว
นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอโนนคูณ กล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้คือ ตนดีใจที่ นายสาคร ยังไม่ตาย และกลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัวญาติพี่น้อง ในส่วนของการดำเนินการช่วยเหลือนั้นได้มอบหมายให้ปลัดอาวุโส และปลัดฝ่ายทะเบียน เร่งดำเนินการให้การช่วยเหลือ นายสาคร ตามระเบียบกฎหมายอย่างเร่งด่วนที่สุด โดยให้ทำการสอบสวนพยานแวดล้อม ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ญาติมิตร เพื่อเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกฎหมายในการเพิ่มชื่อ
จากนั้นจะรายงานไปยังสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เพื่อให้คืนสิทธิ และจะแจ้งไปยังสำนักงานเขตที่ออกใบมรณบัตรเพื่อให้ยกเลิก เนื่องจากแจ้งผิดพลาด โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อความสบายใจของนายสาคร และญาติพี่น้องต่อไป
ทางด้าน นายสาคร สาชีวะ อายุ 44 ปี หนุ่มใหญ่ที่ถูกหาว่าเสียชีวิต และเผาแล้ว กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากนายอำเภอโนนคูณ และคณะ เพื่อให้ตนกลับมามีชีวิตอีกเช่นเดิม และดีใจที่ได้กลับมาบ้าน และได้รับการต้อนรับจากญาติพี่น้องเป็นอย่างดี ต่อจากนี้ไปจะคงยังอยู่ที่บ้านเกิด เนื่องจากตนมีอาการป่วยทางโรคประสาท ซึ่งจะต้องรอไปพบแพทย์ก่อนว่า อาการป่วยจะรักษาให้หายได้หรือไม่ แต่ว่าช่วงนี้ตนจะทำมาหากินอยู่ที่บ้านของตนไปก่อน จะยังไม่กลับไปทำงานที่เรือประมงอีก ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือตนในครั้งนี้