xs
xsm
sm
md
lg

ตะลึง! ทั้งหมู่บ้านเผาศพแล้วหนุ่มศรีสะเกษตัวจริงโผล่กลับบ้าน บอกยังไม่ตายขอชีวิตคืน ญาติแฉถูกยัดศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสาคร  สาชีวะ  อายุ 44 ปี  อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ  ถูกทางราชการระบุว่าเสียชีวิตแล้วและมอบศพชายนิรนามให้มาฌาปนกิจ  ก่อนโผล่กลับบ้านมาขอชีวิตคืน วันนี้ ( 19 ธ.ค.)
ศรีสะเกษ - ตะลึงทั้งหมู่บ้าน เผาศพแล้วตัวจริงโผล่กลับบ้านมาบอกยังไม่ตายขอชีวิตคืนด้วย หนุ่มใหญ่ศรีสะเกษ เผยไปทำงานเรือประมงโดนชาวพม่าแย่งบัตรประชาชนไปแ ละถูกทางราชการระบุเสียชีวิตแล้ว ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ญาติแฉหน่วยงานรัฐยัดเยียดให้รับศพชายนิรนามมาทำบุญฌาปนกิจ ท้วงติงไม่รับฟัง ขณะผู้ใหญ่บ้านยันเป็นตัวจริง เตรียมไปพบนายอำเภอโนนคูณ หาทางแก้ไขช่วยเหลือโดยด่วน


วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 6 บ้านเหล่าฝ้าย ต.เหล่ากวาง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ นายสว่าง ไกรษี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนบ้านเหล่าฝ้าย พร้อมด้วย นายเจริญ เหล็กดี อายุ 55 ปี นักการภารโรง โรงเรียนบ้านเหล่าฝ้าย นายนครชัย พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี นายบุญหลาย พาชื่น อายุ 59 ปี และญาติพี่น้องได้นำตัว นายสาคร สาชีวะ อายุ 44 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน ว่า นายสาคร ถูกทางราชการระบุว่าเสียชีวิตแล้ว ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ไปทำงานบนเรือประมงที่ จ.นครศรีธรรมราช นานกว่า 1 ปี และเมื่อกลับมาถึงบ้านปรากฏว่า ญาติพี่น้องได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพชายคนหนึ่งที่ทางราชการ ระบุว่า เป็นศพของ นายสาคร และได้มีการทำบุญนำเอาอัฐิเข้าไว้ในเจดีย์เรียบร้อยแล้ว

นายเจริญ เหล็กดี อายุ 55 ปี นักการภารโรง โรงเรียนบ้านเหล่าฝ้าย ซึ่งเป็นพี่เขยของนายสาคร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากภรรยาซึ่งเป็นพี่สาวของ นายสาคร ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง โทรศัพท์มาแจ้งว่า ให้ไปรับศพของ นายสาคร ที่คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กรุงเทพฯ เนื่องจาก นายสาคร เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร โดยเสียชีวิตที่ห้องเลขที่ 20 บ้านเลขที่ 236/3 ปรินายก 6 ราชดำเนิน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.60 ที่ผ่านมา

ดังนั้น ตน พร้อมด้วย นายนครชัย พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี และญาติพี่น้องจึงได้ว่าจ้างรถยนต์รับจ้าง จำนวน 10,000 บาท ไปรับศพของนายสาคร โดยได้ไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.นางเลิ้ง จากนั้นไปติดต่อขอรับศพ นายสาคร ที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล โดยมีหนังสือรับรองการตายของคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ที่ ว.414/2560 ลงวันที่ 21 พ.ค.60 และมีใบมรณบัตร สำนักทะเบียนท้องถิ่น เขตพระนคร เลขที่ 01-10014331 ตามคำร้องที่ 5203/2560


นายนครชัย พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี กล่าวว่า ขณะที่ไปรับศพนายสาคร นั้น ตน และญาติพี่น้องได้ขอดูศพของนายสาคร แต่เจ้าหน้าที่เปิดศพให้ดูแค่หน้าอก ซึ่งพบว่า ศพเริ่มบวมขึ้นอืดแล้ว แต่ที่ผิดสังเกต คือ ฟันของศพจะยื่นออกมา ซึ่งผิดจากข้อเท็จจริงที่นายสาคร จะมีฟันหลอบริเวณฟันด้านหน้า ซึ่งตนได้แจ้งความผิดสังเกตนี้ให้เจ้าหน้าที่ทราบแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าศพตายหลายวันแล้วเริ่มบวมขึ้นอืดให้รับออกไปได้ ตนกับญาติพี่น้องจึงได้รับศพของนายสาคร กลับมาทำบุญที่บ้าน โดยกลับมาถึงบ้านเหล่าฝ้าย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.60 และได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน จากนั้นได้ฌาปนกิจศพที่วัดบ้านเหล่าฝ้าย จากนั้นนำอัฐิเข้าบรรจุในเจดีย์เรียบร้อยแล้ว

นายนครชัย กล่าวต่อว่า ต่อมา ช่วงค่ำของวันที่ 17 ธ.ค.60 ปรากฏว่า นายสาคร ได้เดินทางกลับมาที่บ้านเหล่าฝ้าย ซึ่งตน และญาติพี่น้องต่างพากันตื่นตกใจมาก เพราะคาดไม่ถึงว่าทำบุญเผาศพนายสาคร ไปแล้ว แต่ว่า นายสาคร กลับมาที่บ้านอีก และเมื่อเข้าไปจับตัวของนายสาคร ดูแล้วจึงรู้ว่าเป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ผี จึงได้แจ้งให้ นายวีระศักดิ์ แม่นทอง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้ายทราบ และได้มาพบกับนายสาคร ซึ่งนายวีระศักดิ์ ซึ่งรู้จักนายสาคร เป็นอย่างดีได้ยืนยันว่าเป็นนายสาคร ตัวจริง


ทางด้าน นายสาคร สาชีวะ อายุ 44 ปี ที่ญาติพี่น้องเข้าใจว่าตายไปแล้ว กล่าวว่า ตนได้ออกจากบ้านไปทำงานบนเรือประมงที่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.59 ที่ผ่านมา และระหว่างที่ทำงานอยู่ในเรือประมงนั้นได้มีชายชาวพม่าคนหนึ่งที่ทำงานบนเรือประมงด้วยกันได้มาแย่งเอาบัตรประชาชนของตนไป ซึ่งตนได้พยายามแย่งเอาบัตรประชาชนคืนแล้ว แต่ว่าไม่สามารถจะเอาบัตรประชาชนของตนคืนจากชายชาวพม่าได้ และชายชาวพม่าได้ขึ้นจากเรือประมงหนีไป

จากนั้นตนได้ไปแจ้งความบัตรประชาชนหาย และขอทำบัตรประชาชนใหม่ที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้น ทำงานอยู่บนเรือประมงนานประมาณ 1 ปี 2 เดือน จึงได้เดินทางกลับมาบ้าน และพบว่า มีการเผาศพของชายไม่ทราบชื่อซึ่งเข้าใจว่าเป็นศพของตนไปแล้ว

ตนจึงขอร้องทุกข์ขอชีวิตคืนให้ตนด้วย เพราะว่าตนยังไม่ได้ตายจริง แต่ตามหลักฐานทะเบียนราษฎรได้ระบุว่า ตนได้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.60 ที่ผ่านมา


ทางด้าน นายวีระศักดิ์ แม่นทอง ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้าย กล่าวว่า ได้ตรวจสอบดูแล้วเห็นว่าเป็นนายสาคร ที่เป็นลูกบ้านของตนจริง ดังนั้น จะได้นำตัวนายสาคร ไปพบกับนายอำเภอโนนคูณ เพื่อรายงานเรื่องนี้ให้ทราบเพื่อขอให้พิจารณาให้การช่วยเหลือ นายสาคร สาชีวะ เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น