ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สองชายในคลิปเมากร่างด่าทอท้าทายตำรวจ โร่นำพวงมาลัยดอกไม้ขอโทษตำรวจ-ผู้การฯ โคราช พร้อมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่แล้ว และให้การภาคเสธ ยอมรับเป็นคนอยู่ในคลิปจริง แต่ไม่ยอมรับเรื่องดูหมิ่น ระบุตำรวจไม่มีเหตุสมควรในการเชิญตัวไปโรงพัก แฉต้นเหตุเกิดจากมีปัญหากับ “รองโอ๋” นายตำรวจดัง
วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคลิปชายสองคนที่มีลักษณะอาการมึนเมาพูดจาด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขณะที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าตรวจสอบคนเมานั่งดื่มส่งเสียงดังออกมาจากในร้านอาหารที่เกิดเหตุ โดยในคลิปมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องแบบเข้าไปตรวจสอบด้วยกันหลายคน และภายในร้านอาหารมีลูกค้าเข้าไปรับประทานอาหารอยู่ด้วย ซึ่งชายทั้งสองคนที่ปรากฏอยู่ในคลิปอ้างว่าตนเป็นเจ้าของร้านอาหารที่เกิดเหตุ พร้อมด่าทอ ท้าทาย ท้าต่อย เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยคำหยาบคาย โดยระบุว่าตำรวจไม่มีเหตุผลสมควรในการเชิญตัวเองไปที่โรงพัก นอกจากนี้ยังอ้างว่าตนเป็นลูกน้องของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง เรื่องดังกล่าวทำให้ พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ต้องสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาดำเนินคดีชายทั้งสองคนในคลิปในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น
ล่าสุดวันนี้ ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นายฉัตรชัย ปาละแดน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 530/5 ถนนช้างเผือก ร้านส้มตำช้างเผือก เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เจ้าของร้านสมตำดังกล่าว และ นายปรีชา สินปรุ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นชาย 2 คนที่อยู่ภายในคลิป ได้เดินทางนำพวงมาลัยดอกไม้เข้าขอโทษต่อ พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง พล.ต.ต.วัชรินทร์ได้กล่าวกับทั้งสองคนว่า ไม่เป็นไร แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้ของกฎหมาย เมื่อทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังได้ถามกลับทั้งสองคนว่าเรารู้จักกันหรือเปล่า โดยทั้งสองคนได้ตอบกลับว่าไม่ได้รู้จักกันครับ ตอนนั้นผมพูดออกไปอย่างนั้นเอง
จากนั้น นายฉัตรชัย ปาละแดน และ นายปรีชา สินปรุ พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จำนงค์ สายป้อง สารวัตร (สอบสวน) ในฐานะพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยทั้งสองคนได้ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าเป็นบุคคลที่อยู่ภายในคลิปจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ เนื่องจากขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่มีเหตุอันควรในการเชิญตัวไปที่โรงพัก ซึ่งหลังเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวทั้งสองคนไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว เนื่องจากทั้งสองคนเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง พร้อมทำสำนวนส่งอัยการจังหวัดนครราชสีมาเพื่อขึ้นสู่กระบวนการทางศาลในวันเดียวกัน
นายฉัตรชัย ปาละแดน ชายที่อยู่ในคลิป และเป็นคนถอดเสื้อท้าชกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวพร้อมกับยกมือไหว้ว่า ตนต้องกล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พูดจารุนแรงไป ซึ่งวันนั้นตนมีอาการมึนเมา และขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกันหลายนาย และได้เชิญตนไปที่โรงพัก แต่เมื่อตนถามว่าจะเชิญตัวตนไปโรงพักทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถให้เหตุผลได้ เพียงแต่บอกว่านาย คือ “รองโอ๋” (พ.ต.ท.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา) ให้มาเชิญตัวไปโรงพัก ซึ่งตนยอมรับว่าก่อนหน้าเกิดเหตุตนมีเรื่องกระทบกระทั่งกับ “รองโอ๋” นายตำรวจคนหนึ่ง แต่ไม่ได้มีเหตุรุนแรงอะไร จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเดินทางมาที่ร้านอาหารดังเช่นในคลิปที่เห็น ซึ่งตนก็สำนึกผิด และพร้อมกลับตัวใหม่ โดยยอมรับว่าสิ่งที่ตนพูดรุนแรงเกินไป และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่สังคม
ส่วนกรณีที่มีปัญหากันกับ “รองโอ๋” ก็อยากให้เป็นตัวอย่าง ตนทำมาค้าขายสุจริต พอมีปัญหากับตำรวจก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นอยากขอให้ทางผู้บังคับบัญชาได้ตรวจสอบและพิจารณาให้ความยุติธรรมด้วย เพราะตนขายอาหารตามสั่งพอมีปัญหาแล้วใครจะกล้าเข้าร้านตน การค้าขายก็ลำบากแล้ว ซึ่งตนก็กลัวเหมือนกัน โดยอยากให้มีการตรวจสอบเป็นไปตามกระบวนการ โดยเฉพาะนายตำรวจคนนั้นก็ควรมีการตรวจสอบด้วยเหมือนกัน