ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ร่วม ป.ป.ส. ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแถลงแผนการตัดทำลายไร่ฝิ่นปีงบประมาณ 2560 เผยพบพื้นที่ลักลอบปลูกยังหนาแน่นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ติดต่ออำเภอแม่ระมาด และอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ปีที่ผ่านมาตัดทำลายได้รวมทั้งสิ้น 2,349 แปลง กว่า 1,842 ไร่ ขณะที่คาดการณ์ภาพรวมสถานการณ์ฝิ่นปีนี้จะลดลงกว่า 20% เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนและมาตรการรัฐที่เข้มงวด
วันนี้ (6 ธ.ค. 60) ห้องประชุมทองจัตุ กองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 มอบหมายให้ พลโท สมพงษ์ แจ้งจำรัส แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมแถลงแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปีงบประมาณ 2561 ร่วมกับผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), ตำรวจภูธรภาค 5, ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนอำนวยการ ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติงานหน่วยในโครงการกำจัดพืชเสพติด ระดับพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 3 และประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปีงบประมาณ 2561 ในห้วงเดือน พ.ย. 2560-เดือน เม.ย. 2561
ทั้งนี้ แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจและการตัดทำลายไร่ฝิ่นในปีที่ผ่านมา พบว่าพื้นที่ที่มีการลักลอบปลูกฝิ่นหนาแน่น ได้แก่ พื้นที่ท่าสองยาง-ปิตุคี อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอแม่ระมาด, อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก, พื้นที่แปเปอร์-นาเกียน อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ห้วยน้ำเย็น-ทุ่งต้นงิ้ว อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยเฉพาะในห้วงที่ผ่านมาพื้นที่เขตรอยต่ออำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ กับอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก มีการลักลอบปลูกฝิ่นเพิ่มมากขึ้น
สาเหตุมาจากในพื้นที่อำเภออมก๋อยได้มีการเข้าดำเนินงานในมาตรการต่างๆ ของภาครัฐจากหลายส่วนเพื่อลดปัญหาการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ จึงทำให้ผู้ลักลอบปลูกฝิ่นได้ย้ายพื้นที่ลงมาลักลอบปลูกฝิ่นหนาแน่นทางตอนล่าง ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ขณะที่ผลการตัดทำลายไร่ฝิ่นงบประมาณ 2560 ตรวจพบพื้นที่เป้าหมายที่มีการลักลอบปลูกฝิ่น และได้จัดกำลังเข้าตัดทำลายไร่ฝิ่น จำนวน 21 พื้นที่ จากพื้นที่สำรวจพบจำนวน 2,226 แปลง 1,769.64 ไร่ ซึ่งพบเป้าหมายนอกแผนจำนวน 123 แปลง 72.70 ไร่ สามารถตัดทำลายได้รวมทั้งสิ้น 2,349 แปลง 1,842.34 ไร่
ด้านนายปรัชญา ทวีกุล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนสำรวจพืชเสพติด สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด ป.ป.ส. กล่าวว่า สถานการณ์การปลูกฝิ่นในปีนี้มีการเปิดพื้นที่ลดลงกว่าปีที่แล้วเป็นจำนวนมาก โดยในบางพื้นที่เป็นแปลงเก่าของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่เขตอำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนพื้นที่เขตอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ มีการเปิดพื้นที่ใหม่เพื่อหลบเลี่ยงจากการสำรวจของเจ้าหน้าที่ โดยย้ายพื้นที่ปลูกเข้าไปในป่าลึก ส่วนในพื้นที่เขตจังหวัดตากมีการเปิดพื้นที่ลดลง ในการสำรวจทางอากาศช่วงที่ผ่านมามีอุปสรรคเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย มีเมฆปกคลุมในช่วงต้นฤดูการปลูกฝิ่น ทำให้การสำรวจทางอากาศเป็นไปด้วยความยากลำบากและมีความเสี่ยงอันตรายสูง
สำหรับสถานการณ์โดยรวมพื้นที่ปลูกฝิ่นปีนี้คาดว่าจะลดลงประมาณร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2559/60 ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและมีฝนตกชุก รวมถึงความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวนป้องปรามและตัดทำลายในพื้นที่ จากการสำรวจทางอากาศและภาคพื้นดินของสถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.ในปีนี้ จากข้อมูล ณ วันที่ 27 พ.ย. 60 พบมีการเปิดพื้นที่เพื่อลักลอบปลูกฝิ่นโดยชาวเขา รวมพื้นที่ทั้งสิ้นจำนวน 137 แปลง พื้นที่ 100.32 ไร่ แบ่งเป็น จังหวัดเชียงใหม่ 78 แปลง พื้นที่ 59.57 ไร่ จังหวัดตาก 59 แปลง พื้นที่ 40.75 ไร่ โดยพื้นที่ปลูกฝิ่นในปีนี้เมื่อเทียบกับฤดูกาลปลูกฝิ่นปี 2559-2560 ในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่าพื้นที่ปลูกปีนี้ลดลงเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ จากการประเมินราคาฝิ่นดิบในพื้นที่พบว่ามีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผลผลิตฝิ่นหลังจากการตัดฟันทำลาย, ผลผลิตที่รอดจากการตัดทำลายหรือถูกตัดทำลายไม่สมบูรณ์ รวมถึงการตัดทำลายหลังจากผู้ปลูกเก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้ผลผลิตฝิ่นดิบในพื้นที่มีจำนวนน้อย ส่งผลให้ฝิ่นดิบมีราคาสูง และจำนวนผู้เสพฝิ่นในพื้นที่ปลูกยังคงมีอยู่มาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ติดต่อกับอำเภอแม่ระมาดและอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปลูกฝิ่นหนาแน่นมากที่สุด มีราคาขายปลีกสูงถึงจ๊อย (น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม) ละ 168,000 บาท