พระนครศรีอยุธยา - รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุรถตู้นำเที่ยวชนท้ายรถบรรทุก ทำชาวญี่ปุ่นดับ 4 พร้อมไกด์ชาวไทย 1 ราย ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมวางมาตรการล้อมคอกรถเช่าเหมา
วันนี้ (11 พ.ย.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้นำคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ กรณีรถตู้นำเที่ยวชนท้ายรถบรรทุก บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 347 ช่วง กม.28+700 ฝั่งขาออก ต.ตลาดเรียบ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต 4 ราย พร้อมไกด์นำเที่ยวชาวไทยอีก 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดอุบัติเหตุในลักษณะนี้มาก่อน และเหตุการณ์ในครั้งนี้น่าจะเกิดจากรถตู้เอง อย่างไรก็ตาม จะเร่งให้มีการปรับปรุงเส้นทางจราจรบริเวณจุดเกิดเหตุ และจุดที่มีความเสี่ยง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งในเบื้องต้น จะทำการขยายช่องทางจราจรเพิ่มอีก 1 ช่องทาง ในช่วงก่อนเข้าและหลังจากออกถนนหมายเลข 3030 ตลอดระยะทางฝั่งละ 100 เมตร เพื่อให้รถบรรทุกเลี้ยวเข้าออกได้ง่าย
พร้อมสั่งการให้มีการติดตั้งป้ายเตือนการใช้ความเร็วเป็นระยะ และติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มทุก 50-100 เมตร ทั้งยังเสนอให้มีการทำสะพานลอยคนเดินข้าม และรถจักรยานยนต์ข้าม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นทางเลี้ยวเข้าชุมชนที่มักจะมีคนเดินข้ามถนน และขี่รถจักรยานยนต์ผ่านร่องกลางถนน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเชื่อว่า หากเส้นทางนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว จะทำให้เกิดความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สัญจรได้ดีขึ้น
นายอาคม ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่า ได้เร่งสั่งการให้กรมการขนส่งทางบก ติดตามการชดเชยค่าเสียหายของบริษัทประกันภัยให้ครบถ้วน พร้อมทั้งตรวจสอบการบริหารจัดการของบริษัททัวร์ เพื่อเป็นมาตรการการป้องกันในอนาคต
ส่วนมาตรการต่อไป คือ บริษัทที่เรียกว่าเช่าเหมารถ จะต้องถูกเรียกมาตรวจสอบสภาพรถ ตรวจสอบประวัติ และทุกบริษัทที่ทำธุรกิจรถเช่าเหมาจะต้องมีผู้จัดการด้านความปลอดภัย หรือเซฟตี้แมเนเจอร์ ซึ่งจะทำหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องของรถที่ออกมาให้บริการทั้งความพร้อมของรถ และคนขับ ซึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุบริษัทโดยผู้จัดการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ