ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คืบหน้าเหตุคนร้ายเหิมหนักก่อเหตุอุกอาจ ตระเวนปาระเบิดขวดเผาสถานที่ราชการ อ.คง โคราช คืนเดียว 3 แห่งรวด เจอรวบทันควัน เป็นหนุ่มคงวัย 37 ปี ตำรวจเผยรับสารภาพ พบมีอาการเพี้ยน ไม่สมประกอบ ให้การวกวนอยากเข้าคุก คาดเสพยาหนัก สอบประวัติเพิ่งออกจากคุกคดีเสพและค้ายาบ้า ผู้ว่าฯ โคราชยันไม่เกี่ยวการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. คืนวานนี้ (7 พ.ย.) ได้เกิดเหตุคนร้ายตระเวนปาระเบิดขวดตามหน่วยงานราชการ 3 แห่งในเวลาไล่เลี่ยกัน ในท้องที่ อ.คง จ.นครราชสีมา โดยจุดแรกคือ ที่ว่าการอำเภอคง ทำให้เพลิงลุกไหม้บริเวณชั้น 2 หน้าห้องทำงาน นายพัลลภ สิงห์ทอง นายอำเภอคง ได้รับความเสียหาย จุดที่ 2 คือ บริเวณสถานีตำรวจคง (สภ.คง) กระจกแตกเสียหายมีเพลิงไหม้เล็กน้อย ส่วนจุดที่ 3 คือ ป้อมยามตำรวจบริเวณตลาดเทศบาลตำบลคง ได้รับความเสียหายเล็กน้อยเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้ที่ชั้น 2 ของที่ว่าการอำเภอคง แต่การดับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากมีไฟฟ้าช็อต ต้องประสานเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้าทำการตัดไฟก่อนจึงสามารถฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้ได้ ส่งผลให้บริเวณหน้าห้องนายอำเภอคงได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนจุดอื่นๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อุปกรณ์ในการดับเพลิงดับเองได้
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากรายงานทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายไพทูรย์ เทพมง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 10 บ้านหนองมะนาว ต.หนองมะนาว อ.คง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ทันควันขณะขับรถหลบหนีหลังก่อเหตุ พร้อมของกลาง ประกอบด้วย ย่าม ภายในมีขวดเครื่องดื่มเอ็ม 150 บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงมีไส้ผ้าสำหรับจุดไฟจำนวน 2 ขวด, เทียนไข 3 เล่ม, ธูป 1 กำ, ไฟแช็ก 3 อัน, ขวดพลาสติกใส่ลูกตะกั่ว 1 ขวด และมีดอีโต้ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.คง เบื้องต้นนายไพทูรย์ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุนั้นให้การวกวน สับสน
อย่างไรก็ตาม การก่อเหตุครั้งนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองแต่อย่างใด หรือเกิดความน้อยใจการทำงานของข้าราชการในพื้นที่ ซึ่งตนได้สั่งการให้ทุกอำเภอดูแลเฝ้าระวังสถานที่ราชการอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพิ่มยามรักษาความปลอดภัยให้ถี่ขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก
ด้าน พล.ต.ต.พัชรินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาอันรวดเร็ว จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การวกไปวนมา สติไม่สมประกอบ คาดเสพยามาก จากการสอบประวัติพบว่า นายไพทูรย์ ผู้ต้องหาเคยต้องคดียาเสพติด ทั้งจำหน่ายและเสพยาบ้า และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ต้องไปรายงานต่อศาลตามนัดอย่างต่อเนื่อง ส่วนภรรยายังติดคุกอยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาพูดจาวกไปวนมา บอกเพียงว่าเป็นคนก่อเหตุขึ้นจริง เพราะอยากเข้าไปอยู่ในคุกจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองและลงมือทำคนเดียวไม่มีใครบงการอยู่เบื้องหลัง และผู้ต้องหายังแก้ผ้าอาบน้ำในห้องขังด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง