คุมตัวสามโจ๋ปาระเบิดหน้า สน.ห้วยขวาง ทำแผน แค้นตร.จับเพื่อนเมาแล้วขับวันสงกรานต์

MGR Online - ตำรวจห้วยขวางคุมตัว 3 โจ๋ คึกคะนองปาระเบิดขวดใส่หน้า สน.ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โมโหถูกจับข้อหาเมาแล้วขับจึงก่อเหตุดังกล่าว

วันนี้ (26 เม.ย.) เวลา 10.30 น. จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่น 3 คน โยนระเบิดริมถนนหน้า สน.ห้วยขวาง แขวงและเขตดินแดง กทม. โดยลักษณะกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คน อายุประมาณ 20 ปี ขับขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์มาด้วยกัน 1 คัน มาจากถนนประชาสงเคราะห์เข้ามาภายในซอย 32 ผ่านหน้า สน.ห้วยขวาง ก่อนคนซ้อนท้ายได้โยนวัตถุระเบิดลงริมถนนแล้วเกิดระเบิดขึ้น ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คือ นายเอกชัย หรือแก๊ป วงศ์หาจักร อายุ 20 ปี (คนโยนระเบิด) นายทศพล หรือต้า สิงห์ลา อายุ 27 ปี คนขับรถ นายณัฐพงษ์ หรือโจ วงสว่าง อายุ 21 ปี คนซ้อน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1015-1016-1017/2560 ลงวันที่ 25 เม.ย. 2560 ตามลำดับ ข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดและทำให้เกิดระเบิด ซึ่งภายหลังคนร้ายให้การว่าทำไปเพราะความคึกคะนอง

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ชยุต มารยาตร รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช รอง ผบก.อก.บก.น.1 รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง ร่วมกันนำตัวนายเอกชัย นายทศพล และนายณัฐพงษ์ มายังจุดเกิดเหตุที่หน้า สน.ห้วยขวาง เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งนายเอกชัยได้สาธิตวิธีทำระเบิดขวดโดยระบุว่ามีการนำเศษหินใส่ลงไป ตามด้วยแก๊ป ดินปืน และปิดฝาขวดเจาะฝาใส่สายชนวน ก่อนซุกซ่อนในกางเกงและนำมาโยนทิ้งไว้หน้า สน.ห้วยขวาง

ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์เผยว่า หลังจากเกิดเหตุก็ได้เร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หาข่าวกระทั่งทร่บตัวผู้กระทำผิด และได้ดำเนินการจับกุมตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ผลจากการการสอบปากคำทราบว่า เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์นายณัฐพงษ์โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุมข้อหาเมาแล้วขับ นายณัฐพงษ์ได้ไปโพสต์เฟซบุ๊ก ก่อนที่นายเอกชัยที่เป็นเพื่อนรักจะเห็นโพสต์และอาสาไปสร้างความปั่นป่วนในครั้งนี้จึงตัดสินใจพร้อมพวกลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันทำให้เกิดระเบิด ก่อนคุมตัวส่งศาลอาญา รัชดาฯ ในวันนี้

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวอีกว่า คดีนี้คนร้ายตั้งใจลงมือแค่เพียงความคึกคะนอง ไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต และการทำระเบิดดังกล่าวเป็นการทำด้วยมือ ส่วนดินปืนก็มาจากประทัดซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าชอบจุดตามงานเทศกาลอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจและเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนต่อไป