xs
xsm
sm
md
lg

พ่อแม่น้องโฉ วอนขอกราบเท้า ผบ.ตร.ตามคดี “น้องโฉ” ถูกยิงดับในมหาวิทยาลัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - พ่อแม่ “น้องโฉ” นศ.มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เข้ารับเงินประกัน 1 แสนบาท วอน จักรทิพย์ เร่งรัดคดี หากช่วยได้จะขอกราบเท้า ผ่านมา 3 เดือน บอกมหาวิทยาลัยอ้างไม่มีระเบียบจ่ายเงินช่วยเหลือ ขณะสารวัตรแม่มือยิง ติดต่อมาครั้งเดียวหลังงานศพ อยู่แบบไร้ความหวัง ไปหาใครก็บอกช่วยไม่ได้ ปลงเป็นแค่ชาวนาไม่มีค่า

วันนี้ (1 พ.ย.) จากกรณีที่ นายณัฐวุฒิ สิงห์สร หรือน้องโฉ อายุ 20 ปี นักศึกษาปีที่ 3 ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ถูก นายอภิชาต เสริมสิน หรือเทนนิส อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ภาควิชาธุรกิจคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน ใช้อาวุธปืนปากกายิงภายในห้องน้ำ อาการสาหัส เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่มีการยิงกันในมหาวิทยาลัยในประเทศไทย

โดยจากการติดตามเรื่องราวของการบุกยิงครั้งนี้ เนื่องจาก น้องโฉ ได้เดินไปเข้าห้องน้ำเนื่องจากมีอาการท้องเสีย ขณะที่ นายเทนนิส นั้น ทางมารดาเป็นนายตำรวจ ยศพันตำรวจโท ในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ได้แจ้งว่า บุตรชายนั้นมีอาการป่วยทางจิต และมีการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้น ได้มีข้อมูลปรากฏว่า เทนนิส ได้เกิดความเครียดในห้องเรียนที่เพื่อนๆ ส่งเสียงดัง และเกิดความระแวง ก่อนจะหลบไปในห้องน้ำที่ น้องโฉ เพิ่งทำกิจเสร็จสิ้น เมื่อทั้งคู่ได้มาเจอหน้ากัน เทนนิส ได้คิดว่า น้องโฉ มองหน้าด้วยความเหยียดหยาม จึงได้ชักอาวุธปืนยิงใส่จนผู้ตายจนล้มลง และมือยิงได้กลับเข้าไปนั่งเรียนต่อตามปกติ

ส่วนน้องโฉ ได้ถูกเร่งนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เนื่องจากเพื่อนที่มาพบคิดว่าเกิดอาการเป็นลม หรือลมชัก ก่อนทางโรงพยาบาลจะมีการเอกซเรย์พบแผลที่มีกระสุนฝังในศีรษะทำลายจุดสำคัญไปแล้ว ซึ่งทำให้ นายเกรียงศักดิ์ สิงห์สร และนางซ่อนกลิ่น ช่อฮะมงคล บิดามาร ของน้องโฉ ที่เป็นชาวนา วอนให้สังคมเข้ามาช่วยเหลือ และวอนให้มีการเร่งดำเนินคดีต่อมือยิง และวอนให้มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ออกมารับผิดชอบ และช่วยเหลือเพราะเหตุเกิดในมหาวิทยาลัย ซึ่งทั้งคู่เลือกให้บุตรชายคนเดียวมาศึกษาที่นี่ และเตรียมสอบเป็นปลัดอำเภอตามความฝัน แต่ก็ต้องมาพังทลายลงเสียก่อน

ล่าสุด นายเกรียงศักดิ์ สิงห์สร อายุ 60 ปี บิดาของน้องโฉ บอกว่า ตนเองได้รับการประสานงานจาก ดร.ฉวีวรรณ นกเอี้ยงทอง อาจารย์ประจำภาควิชาธุรกิจคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ให้เข้าไปรับเงินค่าประกันชีวิตจากบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 1.2 แสนบาท ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม โดย ผศ.การุณ ด่านประดิษฐ์ รองอธิการบดีฯ เป็นผู้ส่งมอบ พร้อมตัวแทนจากบริษัทประกัน เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา และก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งการช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม หรือแม้แต่คดีก็ไม่มีความชัดเจนใดๆ จากร้อยเวรเจ้าของคดี ทำให้เมื่อถึงวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ก็จะครบ 90 วันที่ลูกชายถูกยิง โดยทุกวันนี้ตนเอง และภรรยายังร้องไห้ทุกวัน และท้อแท้ชีวิตไม่สามารถทำงานได้ เพราะความคิดถึงลูกชาย และรอคอยความคืบหน้าของคดี จนตอนนี้ตนเอง และภรรยาแทบจะแยกกันอยู่ เพราะเมื่อเห็นหน้ากันก็ยังทำใจรับไม่ได้

นายเกรียงศักดิ์ บอกว่า ตอนนี้เงินที่ได้รับคือ เงินที่ได้จากประกันชีวิตแบบหมู่คณะที่นักศึกษาทุกคนจะต้องทำไว้กับมหาวิทยาลัย ส่วนการช่วยเหลืออื่นๆ ก็ได้เงินกองทุนที่มหาวิทยาลับเรี่ยไรกันมา ประมาณ 8 หมื่นบาท และเงินค่าช่วยเหลือจากสารวัตรแม่ของมือยิง 5 หมื่นบาท จากที่ตกลงกันครั้งแรกรับปากจะช่วยเหลือ 2 แสนบาท ตอนนี้ก็นิ่งเงียบไปแล้ว ซึ่งเงินที่ได้ก่อนหน้ารวม 1 แสนกว่าบาท ก็ได้เอาไปใช้ในการจัดงานศพลูกชายจนหมดแล้ว และยังไม่พอต้องไปขอหยิบยืมจนเป็นหนี้สิน ซึ่งเงินที่ได้รับมาล่าสุด 1.2 แสนบาท ก็จะเอาไปใช้หนี้สิน และทำโกศบรรจุกระดูกลูกชาย และทำบุญให้ น้องโฉ ครบ 100 วัน ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ก็น่าจะไม่เหลืออะไร

นายเกรียงศักดิ์ บอกว่า ตอนนี้ท้อแท้ไปหมด ภรรยาของตนเองต้องแยกไปนอนที่หอพักที่น้องโฉ เคยพักก่อนจะเสียชีวิตกับแฟนของเขา เพราะยังคิดถึงลูกชายคนเดียวอยู่ตลอดเวลา ส่วนตนเองก็อยู่ที่บ้านในจังหวัดสิงห์บุรี ไปวันๆ ทุกวันจะเอาโทรศัพท์ของลูกชายมานั่งดูภาพของเขา แล้วก็ต้องมานั่งแอบร้องไห้ในบ้าน ซึ่งมันทรมานมาก ตอนนี้เหมือนบ้านแตก นาที่เป็นอาชีพหลักก็ไม่ได้ทำ เพราะมันไม่มีแรงไม่รู้จะทำไปให้ใครเขามาจากเราไปแล้ว เราก็เหมือนตายไปด้วย และที่น่าเสียใจ คือ คนที่รับปากจะยื่นมือมาช่วยก็หายหน้ากันไปหมดหลังจากมีข่าวออกสื่อไปไม่นาน

“ตอนนี้ผมถามความคืบหน้า ทางร้อยเวรเจ้าของคดีเขาก็ไม่บอกอะไร ส่วนการถามไปยังมหาวิทยาลัยเรื่องการช่วยเหลือเขาก็บอกว่า เบิกเงินมาช่วยไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นไม่สามารถทำได้ ผมก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่พยายามตั้งเรื่องขึ้นมาก่อน จะได้ไม่ได้ก็ค่อยมาว่ากัน ก็ยังดีกว่ามาบอกว่า ทำไม่ได้ ผมห่างจากลูกมาส่งที่หอพัก เขาเข้าเรียนยังไม่ถึง 20 ชั่วโมงมาโดนยิงตาย แต่ก็มาปฏิเสธผมตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ ผมเสียใจที่เขาไม่ดูแล ไม่ได้เห็นใจเราเลย ทุกวันนี้ก็ปล่อยให้ชีวิตมันผ่านไปวันๆ ผมก็คิดแค่นั้น” นายเกรียงศักดิ์ กล่าวด้วยน้ำตา

นายเกรียงศักดิ์ บอกอีกว่า เขาคงเห็นผม 2 คนเป็นเศษกระดาษ หรือใบไม้แห้งในสังคมนี้ เหมือนกับมันปลิวไปในอากาศแล้วตกลงพื้นไม่มีค่าอะไร เราก็เข้าใจเราเป็นแค่ชาวนา ส่วนทางสารวัตรของเทนนิส มือยิงก็ติดต่อหลังงานศพ 1 ครั้ง บอกว่าอยากจะมาคุยด้วย ผมก็บอกให้ไปพบกันที่หอพักของโฉ ที่หลังมหาวิทยาลัย เขาบอกจะมาจากนั้นก็ไม่มาแล้วเงียบไปแล้ว หรือจะเป็นเพราะเขาเป็นตำรวจ คงจะมีเส้นสายช่วยเหลือกันไว้แล้วเรื่องถึงเงียบ และไม่คืบ โดยเขาอ้างตั้งแต่วันแรกว่า ลูกเขาป่วยทางจิต ถ้าป่วยจริงจะเรียนคอมพิวเตอร์ได้ยังไง ผมก็ยังงง

“ครั้งนี้ผมขอวอนไปถึงท่าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า ให้ช่วยติดตามคดีให้ผมด้วย ตอนนี้ผมมืดมนไปหมด ถ้าท่านช่วยผมได้ผมจะขอกราบเท้าท่านจริงๆ ผมและภรรยาท้อแท้มาก ลูกผมตายแบบนี้มันไม่สามารถทำใจได้ แต่การที่ถูกทิ้งในสังคมแบบนี้ผมเสียใจมากๆ มองภาพลูกทุกวันแล้วใจมันสลาย” นายเกรียงศักดิ์ ปิดท้ายแบบหมดอาลัย

ด้าน นางซ่อนกลิ่น ช่อฮะมงคล มารดาบอกว่า ตอนนี้ตนเองพูดอะไรไม่ออก ถ้าจะให้พูดอีกก็เหมือนเดิม อยากจะให้ใครมาช่วย แต่ขอความช่วยเหลือไปตั้งแต่วันแรกก็เงียบกันมาตลอด ตอนนี้ก็คงจะพูดอะไรไม่ออก จะขอความเห็นใจใครไปก็แค่นั้น เพราะ 3 เดือนที่ผ่านมา ก็เงียบไปทุกที จะให้นั่งอ้อนวอนกับใครก็ต้องมาพูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ภาพเก่าๆ มันก็กลับมาอีก ตอนนี้หมดแรงจะพูดแล้ว ท้องนาก็ต้องปล่อยทิ้งไว้ เพราะทุกทีลูกจะมาช่วยกันทำ 3 คนพ่อแม่ลูก ตอนนี้เงียบไม่มีเสียงไม่มีลูกแล้ว ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปอีก




กำลังโหลดความคิดเห็น