นครพนม - สลด! ดาบตำรวจ สภ.บ้านแพง นครพนม เครียดจัด คว้า 11 มม.จ่อขมับดับคาเก๋ง แม่บอกมีลางร้ายเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ไปเยี่ยมลูกชาย ทันทีที่เห็นตนรีบโผเข้าโอบกอดนอนหนุนตักและก้มกราบเท้าด้วยความดีใจ ไม่คาดคิดจะฆ่าตัวตาย
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่จังหวัดนครพนม ร.ต.อ.พีระพงษ์ คฤหัส รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านแพง จ.นครพนม รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีชายยิงตัวตายเสียชีวิตในรถเก๋ง พื้นที่ ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง รุดไปพร้อม พ.ต.ท.ศักดิ์ดา นาคประสิทธิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วศิน พิมพะวงศ์ รอง ผกก.ปป. กู้ชีพ 1669 รพ.บ้านแพง กู้ชีพกู้ภัย อบต.ไผ่ล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครพนม
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างน้ำตกตาดโพธิ์ประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงฝายน้ำล้นราว 30 เมตรพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียน กค 5436 นครพนม ที่เบาะนั่งคนขับพบศพ ด.ต.ภัทรพล ภูลายยาว วัย 41 ปี หรือดาบดาว ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม (สายตรวจ 19) สภ.บ้านแพง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ
สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. คมกระสุนเจาะเข้าที่ขมับซ้าย กระสุนฝังใน เลือดกระเด็นเปื้อนเบาะนั่งและพื้นรถ พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ที่หน้าตัก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นางปัญจา ภูลายยาว อายุ 41 ปี นักวิชาการคลัง สำนักงานเทศบาล ต.บ้านแพง ภรรยา ระบุว่า สามีออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงตี 5 เพื่อไปจับจ่ายตลาดไปซื้อเนื้อวัวและผักมาทำลาบ-ก้อยเลี้ยงนางสุดใจ ภูลายยาว อายุ 56 ปี มารดาผู้ตาย และญาติพี่น้องรวม 7 คนที่เดินทางมาจาก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังจากที่ดาบดาว ผู้เป็นสามีโทรศัพท์ให้ผู้เป็นมารดาเดินทางมาเยี่ยม
กระทั่งช่วง 9 โมงเช้าผู้ตายยังไม่เข้าบ้าน จึงเอะใจตนจึงขับรถออกตามหา กระทั่งมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาแจ้งว่าพบเป็นศพแล้ว
ด้าน นางสุดใจ ภูลายยาว มารดา ด.ต.ภัทรพล กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลา 17.00 น. ลูกชายโทรศัพท์ให้ตนมาพบที่บ้านพักในตัว อ.บ้านแพง จึงเดินทางมาถึงช่วง 4 ทุ่มกลางดึกเมื่อวานนี้ ดาบดาวดีใจมากที่ตนและญาติมาหาจึงโผเข้าโอบกอด นอนหนุนตัก และก้มกราบเท้าด้วยความดีใจ แต่ก็เอะใจเพราะเมื่อวานขณะที่บุตรชายโทรศัพท์หามีเสียงร้องไห้ด้วย ไม่คาดคิดว่าจะเป็นการร่ำลากันครั้งสุดท้าย
“เหมือนมีลางสังหรณ์ เพราะลูกชายมีโรคประจำตัว ทั้งโรคเบาหวานและความดันรุมเร้า หอบเหนื่อยหายใจไม่ออก ฉันบอกว่าพรุ่งนี้จะพาไปหาหมอ ส่วนเมียของลูกชายก็รบเร้าจะพาไปพบแพทย์ในช่วงกลางคืน แต่ลูกชายไม่ยอมไป” นางสุดใจกล่าว และว่า
กระทั่งมาทราบข่าวว่าบุตรชายใช้อาวุธปืนฆ่าตัวตาย สร้างความเศร้าสลดแก่ญาติพี่น้อง คล้ายกับว่าบุตรชายตั้งใจให้มางานศพตนเอง สงสารก็แต่นางปัญจา ภรรยา ซึ่งต้องเลี้ยงดูบุตรสาววัย 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 และบุตรชายวัย 11 ขวบ ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 ต้องกำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเด็ก
ด้าน ร.ต.อ.พีระพงษ์กล่าวว่า จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดไม่พบร่องรอยหรือการต่อสู้แต่อย่างใด คาดว่าผู้ตายอาจจะเครียดกับปัญหาโรครุมเร้า หลังเพื่อนร่วมงานทราบว่าหักดิบเลิกดื่มสุราและสูบบุหรี่ ทั้งนี้ ก่อนที่ ด.ต.ภัทรพลจะจบชีวิตเพื่อนร่วมงานยังพบเห็นดาบดาวมาที่ห้องทำงานตั้งแต่เช้าตรู่จนผิดสังเกต การเข้าเวรเช้าวันนี้คล้ายว่าจะมาร่ำลาเพื่อนร่วมงานครั้งสุดท้าย