เชียงราย - ชาวเชียงรายเดือดร้อนกันทั้งเมือง หลัง ทล.ปิดถนนทำทางหน้า มฟล.เหลือเลนเดียวทั้งขาขึ้น-ขาล่องจนรถติดวินาศสันตะโรทุกวัน ต้องหาทางเลี่ยงเข้าตรอกซอกซอยตามยถากรรม หวั่นการก่อสร้างไม่เสร็จตามแผน กระทบยาวไฮซีซันนี้
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพการจราจรบนถนนพหลโยธิน เส้นทางเชื่อมตัวเมืองเชียงราย-ชายแดนแม่สาย/ท่าขี้เหล็ก ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย กำลังอยู่ในสภาพวิกฤตอย่างหนัก โดยเฉพาะวันหยุดยาวที่มีประชาชนหรือนักท่องเที่ยวสัญจรผ่านไป-มาเป็นจำนวนมาก และชั่วโมงเร่งด่วน
เนื่องจากกรมทางหลวงอยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างผิวจราจรใหม่เพื่อเทคอนกรีตเสริมเหล็กแทนยางมะตอยตั้งแต่บริเวณสี่แยกไฟแดง ปากทางเข้าออกมหาวิทยาลัย-ผ่านหน้าตลาด และชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยฯ ไปทางทิศเหนือ จึงปิดช่องทางจราจรที่เป็นขาขึ้น 2 ช่องจราจร และขาล่อง 2 ช่องจราจร ให้เหลือช่องทางจราจรซ้ายสุดเพียงฝั่งละ 1 ช่องจราจร
ขณะนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างอยู่ระหว่างขุดผิวจราจรเดิมออก และนำโครงเหล็กลงวาง รอเทคอนกรีตตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม 60 ที่ผ่านมาแล้ว
จนทำให้รถราแออัดก่อนถึงจุดปิดกั้นช่องจราจรแบบยาวเหยียด คนขับรถยนต์-จักรยานยนต์จำนวนมากพากันวิ่งบนทางเท้าทั้งขาขึ้น และขาล่อง บางช่วงรถติดนานกว่า 30 นาที-1 ชั่วโมงจึงจะหลุดจากจุดดังกล่าวมาได้ ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ทั้งสองฝั่งก็ประสบปัญหาการเข้า-ออกบ้านเรือนด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังเกรงกันว่าหากการดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ก่อนช่วงไฮซีซัน หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะเกิดความโกลาหลอย่างหนัก เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยวที่จะมีผู้คนเดินทางไปเที่ยวที่เชียงรายเป็นจำนวนมาก ขณะที่ถนนพหลโยธินเป็นถนนสายหลักเชื่อมระหว่าง อ.เมืองไปยังอำเภอหลักต่างๆ โดยเฉพาะชายแดนที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญด้วย
ด้าน นายนิคม เทพบุตร ผอ.แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากผู้รับเหมาก่อสร้างในเบื้องต้นว่าการดำเนินการปรับปรุงถนนบริเวณดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จก่อนเดือนธันวาคม 60 นี้แน่นอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนด
สำหรับในช่วงก่อสร้างนี้จะหาวิธีการแก้ไขโดยจะจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.บ้านดู่ อ.เมือง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด รวมทั้งจัดหาเส้นทางเลี่ยงเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนด้วยต่อไป
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่จำเป็นต้องเดินทางผ่านเส้นทางช่วงดังกล่าวทุกวัน ต่างพยายามที่จะหาทางเลี่ยงขับรถเข้าตรอกซอกซอยทั้งสองฝั่งกันเองตามยถากรรมอยู่ในขณะนี้ เพียงแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางขนาดเล็ก ที่บางครั้งแม้แต่คนท้องถิ่นยังหลงทางด้วยซ้ำ