จันทบุรี - ชาวบ้านเริ่มเห็นความสำคัญในการจัดทำรั้วรังผึ้ง ป้องกันช้างป่าบุกทำลายพืชสวน หลังโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว ไม่สามารถบุกเข้าไปในพื้นที่สวนของชาวบ้าน ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ได้ เพราะติดรั้วรังผึ้ง จนต้องล่าถอยออกไปหากินแนวท้ายป่าหลังหมู่บ้านแทน
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (24 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และเจ้าหน้าที่อนุรักษ์หน่วยคลองครก ว่า มีโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว เดินออกจากป่าปาล์มที่เป็นคูดูช้าง ในพื้นที่ ม.1 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี มุ่งหน้าไปยังรั้วรังผึ้งของชาวบ้านจนเจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังเพื่อเร่งผลักดันไม่ให้โขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว บุกเข้าทำลายพืชสวนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย รวมทั้งป้องกันชาวบ้านไม่ให้ได้รับอันตรายจากการถูกช้างป่าทำร้าย
โดยหลังรับแจ้งจากชาวบ้าน เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อนุรักษ์หน่วยคลองครก และ ชรบ. ได้นำกำลังส่วนหนึ่งรุดไปในพื้นที่ ซึ่งก็พบว่า มีโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว ที่ยังไม่สามารถบุกเข้ามาประชิดบ้านของชาวบ้านได้ เนื่องจากมีรั้วรังผึ้งกั้นขวางอยู่
ประกอบกับโขลงช้างป่ากว่า 30 ตัว ได้ถูกผึ้งรบกวนจนทำให้ต้องล่าถอยออกไปหากินแนวป่าหลังหมู่บ้าน จึงทำให้พืชสวนของชาวบ้านที่ปลูกไว้ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
ทั้งนี้ รั้วรังผึ้งที่หน่วยงาน หรืออุทยานแห่งชาติภูหลวง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เข้ามาดำเนินการให้แก่ชาวบ้านถือว่าได้ผลเกินคาด และสามารถแก้ปัญหาโขลงช้างป่าบุกเข้ามาทำลายพืชสวน และบุกประชิดบ้านเรือนของชาวบ้านให้ลดน้อยลง
ล่าสุด ขณะนี้มีชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยง ประกอบด้วย ม.1 ม.5 และ ม.9 ต.พวา และ ต.ขุนซ่อง เริ่มให้ความสำคัญต่อรั้วรังผึ้งมากขึ้น และเตรียมที่จะประสานให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการให้ เพื่อลดปัญหาโขลงช้างป่าบุกทำลายพืชสวน และยังเป็นการทำให้ช้างป่า และคนสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้อีกด้วย