xs
xsm
sm
md
lg

ปัดพลาย..หมอเมืองตั้งแท่นทำพิธีแล้ว สัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ก่อนฝัง“พลายชมพู”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ลำปาง - ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เชิญหมอพื้นบ้านทำพิธีปัดพลาย ให้ “พลายชมพู” จากไปอย่างสงบไร้ห่วง ก่อนสัตวแพทย์จะลงมือผ่าพิสูจน์ นำชิ้นเนื้อส่งตรวจหาสาเหตุการตาย ขณะที่ชาวพิษณุโลก หลายคนผูกพันช้างป่าตกคลองชมพู เล็งขอขนซากไปทำพิธี

วันนี้(22 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมสัตวแพทย์-เจ้าหน้าที่ ได้ยกร่างช้างพลายชมพู จากบริเวณชายป่าหลังสถาบันคชบาลแห่งชาติ หรือศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ที่รักษามาไว้ภายในอาคารศูนย์วิจัยและเฝ้าระวังโรคช้าง สถาบันคชบาลฯ พร้อมอาบน้ำทำความสะอาดร่างพลายชมพู ที่สิ้นลมอย่างสงบตั้งแต่ 20.20 น.ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นสัตวแพทย์ ได้นำดอกไม้ไปวางไว้บริเวณงวงช้าง เพื่อไว้อาลัย เนื่องจากได้ทำการรักษาช้างมาตั้งแต่ต้นอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซึ่งทำให้ทีมงานทุกคนสะเทือนใจเป็นอย่างมาก

น.ส.พ.ทวีโภค อังควานิช ผู้จัดการ ส่วนงานอนุรักษ์และบริบาลช้าง ประจำโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย กล่าวว่าทางทีมงานได้เคลื่อนย้ายซากพลายชมพู มายังอาคารศูนย์วิจัยและเฝ้าระวังโรคช้าง ตั้งแต่เมื่อคืนโดยใช้น้ำแข็งประคบมาตลอด เนื่องซากช้างจะเน่าค่อนข้างเร็ว เพราะช้างตายจากอาการกล้ามเนื้อสลายตัว ก็จะทำให้มีพวกโปรตัสเซียม ทำให้กระบวนการเน่าเร็วกว่าปกติ

และเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดอภิธรรม เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับพลายชมพู พร้อมเชิญนายบุญยัง บุญเทียม อายุ 61 ปี อาจารย์พื้นบ้านได้มาทำพิธีปัดพลาย เพื่อปัดสิ่งไม่ดีออกจากตัวช้าง และเพื่อให้ช้างจากไปอย่างสงบไม่มีห่วงกังวล

จากนั้น พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ ชัยโย พนักงานสอบสวน สภ.ห้างฉัตร ได้เข้ามาถ่ายภาพและบันทึกข้อมูลสาเหตุการตายของช้างพลายชมพู ก่อนที่จะให้ทีมสัตวแพทย์ ผ่าพิสูจน์ซากช้าง เพื่อเก็บเนื้อเยื้อบางส่วนนำไปพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิตของช้าง ซึ่งจะทราบผลภายใน 14 วัน ส่วนซากช้างก็จะนำซากไปฝัง ณ สุสานช้าง ภายในสถาบันคชบาลแห่งชาติต่อไป

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านจังหวัดพิษณุโลก มีความผูกพันกับพลายชมพู และต้องการซากกลับไปทำพิธีที่จังหวัดพิษณุโลกนั้น นายชนมภูมิ จอมทัน ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่(สาขาลำปาง) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า พลายชมพู เป็นช้างป่า เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เมื่อตายก็เป็นสมบัติของชาติ

ดังนั้นหากจะทำอะไรกับซากช้าง ก็ต้องประสานทางราชการ โดยขออนุมัติจากอธิบดีฯโดยตรงเท่านั้น เมื่อประสานขอแล้วจะสามารถนำไปได้หรือไม่ คงอยูที่การวินิจฉัยของสัตวแพทย์อีกครั้งว่าจะสามารถให้เคลื่อนย้ายหรือไม่ เพราะต้องดูว่าซากช้างจะมีโรคที่ต้องระวังหรือไม่อย่างไรด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น