บุรีรัมย์ - ลำน้ำมูลที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เพิ่มขึ้นรวดเร็วและไหลเชี่ยว กระทบผู้เลี้ยงปลาในกระชังต้องชะลอเลี้ยง ส่วนปลาที่ยังไม่จับขายต้องใช้เชือกผูกดึงกระชังไว้ หวั่นกระแสน้ำพัดเสียหาย
วันนี้ (21 ต.ค. 60) มวลน้ำเหนือที่ไหลมาจากจังหวัดนครราชสีมาส่งผลให้น้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่านอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ มีปริมาณหนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยว บางจุดเริ่มเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหาย ทั้งยังกระทบผู้มีอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังบ้านท่าเรือ และบ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง อ.สตึก ที่มีมากกว่า 10 ครัวเรือนต้องชะลอการเลี้ยงชั่วคราวเพราะเกรงกระแสน้ำจะพัดกระชังปลาเสียหาย
แต่ยังมีเกษตรกรบางรายที่ไม่สามารถเก็บกู้กระชังขึ้นได้ เนื่องจากยังมีปลาที่เลี้ยงไว้แต่ไม่โตเต็มที่ ไม่สามารถจับขายได้ จำเป็นต้องเสี่ยงเลี้ยงจนกว่าจะจับขายหมด ต้องใช้เชือกผูกกระชังติดไว้กับคอสะพานเพื่อป้องกันไม่ให้กระแสน้ำพัดกระชังเสียหาย ส่วนเกษตรกรที่ชะลอเลี้ยงได้เก็บกู้อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาขึ้นไว้บนที่สูง ป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
นายเปี่ยม เยี่ยมรัมย์ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง กล่าวว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงปลากระชังมากว่า 10 ปีแล้ว ปีนี้เลี้ยงปลาประมาณ 15,000 ตัว ที่ผ่านมาปลาที่โตเต็มที่ได้ทยอยจับขายไปแล้ว แต่ยังเหลืออีกประมาณ 5,000 ตัวยังโตไม่เต็มที่ หลังจากน้ำมูลหนุนสูงและไหลเชี่ยวจึงนำเชือกมาผูกติดไว้กับสะพานไม่ให้กระแสน้ำไหลพัดสูญหาย แต่ตอนนี้ต้องเผชิญปัญหาปลาเป็นแผลตามลำตัวและทยอยตายโดยไม่รู้สาเหตุด้วย คาดว่าอาจเกิดจากกระแสน้ำพัดเอาสารเคมี หรือน้ำเสียลงมา ทำให้ปลาเป็นแผล ผลกระทบดังกล่าวทำให้ประสบปัญหาขาดทุน