กาฬสินธุ์ - อากาศแปรปรวนหนาว สลับร้อน ผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำปาวเตรียมลดปริมาณการเลี้ยงปลากระชังและอพยพกระชังปลาเข้าบริเวณน้ำลึก เตรียมรับมือน้ำเขื่อนลำปาวลดลงอย่างรวดเร็ว
สภาพอากาศที่แปรปรวนทั้งหนาวช่วงกลางดึกถึงเช้าตรู่สลับกับอากาศร้อนอบอ้าวในเวลากลางวัน และบางวันยังมีฝนตก ส่งผลกระทบกับเกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำปาวที่ต้องประสบปัญญาปลาตายจนขาดทุน
ทั้งนี้ เกษตรกรส่วนใหญ่เริ่มเตรียมรับมือกับภาวะเสี่ยงขาดทุนทั้งการลดปริมาณการเลี้ยงลงและการอพยพกระชังปลาเข้าสู่บริเวณน้ำลึก เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาวที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
นายไพบูลย์ โสภานะ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 1 หมู่ 5 สมาชิกผู้เลี้ยงปลากระชัง บ้านโคกกลางเหนือ ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งหนาว แดดร้อน และบางวันมีฝนตก ส่งผลกระทบกับปลากระชังซึ่งอยู่ในช่วงจับจำหน่าย เนื่องจากจำกัดพื้นที่ในการเลี้ยง ทำให้ปลาต้องแย่งอากาศหายใจ และปรับตัวไม่ทัน ประกอบกับเขื่อนลำปาวได้ปล่อยน้ำให้พื้นที่การเกษตรด้านล่าง เพื่อทำนาปรัง และเพื่อการอุปโภคบริโภค ทำให้ระดับน้ำบริเวณเลี้ยงปลากระชังลดลงอย่างรวดเร็วและตื้นเขิน เกิดภาวะน้ำขุ่นเป็นสนิม ปลาในกระชังเริ่มตาย เป็นปัญหาที่สร้างความวิตกกังวลให้แก่ผู้เลี้ยงปลากระชังเป็นอย่างมาก
นายไพบูลย์กล่าวอีกว่า เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวผู้เลี้ยงปลากระชังในบริเวณท้ายเขื่อนลำปาวกว่า 100 ราย จึงเตรียมการรับมือ โดยเฝ้าระวังปริมาณน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งลดปริมาณการให้อาหาร และทำการอพยพกระชังปลาไปยังบริเวณน้ำลึก ขณะที่บางรายเร่งจับจำหน่ายเพื่อลดความแออัดของปลาในกระชัง ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนเคยเกิดเหตุการณ์ปลากระชังน็อคตายเมื่อไม่นานมานี้ ที่ได้สร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการนับสิบล้านบาท
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำในเขื่อนลำปาวปัจจุบัน 939 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 47% จากความจุอ่าง 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่สำหรับน้ำใช้จะอยู่ที่ 893 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 42 โดยขณะนี้ได้มีการระบายน้ำอยู่วันละ 4,96 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นการระบายน้ำเพื่อการเกษตรฤดูแล้งและเพื่อการอุปโภคบริโภคตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นมา
โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนลำปาวยืนยันว่าจะมีน้ำเพียงพอในฤดูแล้ง แต่ทุกฝ่ายต้องใช้น้ำอย่างประหยัด