พระนครศรีอยุธยา - สุดฉงน พระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อทองเหลือง ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าองค์พระประธานภายในโบสถ์วัดช่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา มีน้ำสีดำคล้ายน้ำตาไหลออกจากดวงตา หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้โบสถ์ จนทำให้ทรัพย์สิน และภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย โชคดีองค์พระประธาน และพระพุทธรูปหมู่พระประธานไม่ถูกเพลิงไหม้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.30 น วันนี้ (10 ต.ค.) ร.ต.ท.เสนีย์ พาชอบ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โบสถ์วัดช่างทอง ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสาน นายศักราช อัมวงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเรียน ให้นำรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเรียน องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า เทศบาลตำบลบ้านกรด สมาคมอยุธยารวมใจ และเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเข้าระงับเหตุ
โดยพบเพลิงกำลังลุกไหม้ที่บริเวณโต๊ะหมู่บูชาฐานรองพระประธาน และมีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากโบสถ์ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมฉีดน้ำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ และจากการตรวจสอบพบโต๊ะหมู่บูชาฝังมุกขนาดใหญ่ พัดลมตั้งโต๊ะ โคมไฟ ภาพจิตรกรรมฝาผนังถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย ส่วนองค์พระประธาน และพระพุทธรูปหมู่พระประธานไม่ได้รับความเสียหาย
นอกจากนั้น ยังพบว่า พระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อทองเหลือง ซึ่งตั้งด้านหน้าพระประธานมีน้ำสีดำคล้ายน้ำตาไหลออกจากดวงตา สร้างความแปลกใจให้แก่ผู้พบเห็น เนื่องจากพระพุทธรูปองค์อื่นๆ บนฐานองค์พระประธาน ไม่มีน้ำไหลจากตาแต่อย่างใด
จากการสอบสวน นายกฤษณะ รักเมือง อายุ 52 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดทราบว่า ขณะนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านได้มีวัยรุ่นมาตะโกนบอกว่าเห็นแสงเพลิงกำลังลุกไหม้ภายในโบสถ์ จึงรีบไปเรียก พระครูพิชัย เดชา รักษ์ เจ้าอาวาสวัดช่างทอง และเจ้าคณะตำบลเกาะเรียน ให้เข้าตรวจสอบ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าช่วยเหลือ
ด้าน พระครูวิชัย เผยว่า โบสถ์หลังดังกล่าวก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2493 และถูกน้ำท่วมเสียหายครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 จนต้องยกพื้นตัวโบสถ์ให้สูงขึ้น และขณะนี้อยู่ระหว่างการบูรณะภาพจิตรกรรมฝาผนัง พร้อมว่าจ้างช่างให้เข้ามาวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเวลาร่วมปีแล้ว โดยช่างจะนอนพักอยู่ภายในโบสถ์ ซึ่งในวันเกิดเหตุไม่เห็นว่ามีช่างมาเขียนฝาผนัง และในช่วงเย็นที่ผ่านมา พระลูกวัดยังช่วยกันกวาดลานโบสถ์ และตัดหญ้าโดยไม่พบความผิดปกติ และยืนยันว่าไม่มีการจุดธูปเทียนทิ้งไว้ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป