นครปฐม - ตำรวจ ปปป.นำทีมค้นบ้าน “พัฒนา สุอำมาตย์มนตรี” นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักพุทธฯ ย่านสามพราน นครปฐม ผู้ต้องสงสัยคนสำคัญคดีทุจริตเงินทอนวัด พบเป็นคนโอนเงินไปให้วัดก่อนขอคืน
เช้าวันนี้ (21 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังเข้าตรวจค้น 3 จุด ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพื่อตรวจค้นบ้านพักข้าราชการระดับสูง สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และเครือข่าย เพื่อค้นหาเอกสารที่เชื่อมโยงต่อการทุจริตเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด และพัฒนาวัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หลังตรวจพบว่า มีบุคคลเกี่ยวข้องต่อคดีทุจริตเงินมีเงินหมุนเวียน เงินทุจริตมากกว่า 30 ล้านบาท
จุดที่เข้าตรวจค้นทั้งหมด 3 จุด โดย พ.ต.อ.แมน รัตนโมรา ผกก.สอบสวน บก.ปปป.พร้อมกำลังนำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 199/8 หมู่บ้านบางกอก บูเลอวาร์ด ริมถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลกระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ของ นายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.)
เมื่อไปถึง พ.ต.อ.แมน รัตนโมรา พร้อมทีมงานได้กดกริ่งเรียกเจ้าของบ้าน จน นายพนม ศรศิลป์ ออกมาพบ จึงได้นำหมายค้นแจ้งให้ นายพนม ทราบ โดย นายพนม มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และขอหมายค้นเข้าไปอ่านในบ้าน
ต่อมา นายพนม ได้ออกมาที่ประตูหน้าบ้านอีกครั้ง และยินดีให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เช่น ปปป. ปปศ. ปปง. สรรพากร เข้าตรวจค้นเท่านั้น ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไป
อีก 1 จุดตรวจค้นสำคัญ คือ บ้านเลขที่ 36/5 หมู่ 1 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นบ้านของ นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมี พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. นำทีมตรวจค้น
เพื่อหาเอกสารที่เชื่อมโยงต่อการทุจริตเงินอุดหนุนวัด กรณีที่มีการโอนเงินจากส่วนกลางไปวัด จากนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไปขอคืนโดยการโอนโดยจะตกลงกับวัดก่อนว่าต้องการเท่าไหร่ จากนั้น ก็จะทำเรื่องจากส่วนกลางโอนไปให้ แต่เป็นเงินที่มากกว่า และจะมีคนตามไปรับคืน หรือเรียกว่าเงินทอน ซึ่งส่วนนี้เป็นงบอุดหนุนที่จ่ายให้แก่วัดใน 3 กรณี คือ 1.เพื่อไปปฏิบัติบูรณะซ่อมแซม 2.เพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรม และ 3.เพื่อการเผยแผ่ ดำเนินกิจกรรมทางศาสนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเข้าตรวจค้นที่บ้านของ นายพัฒนา พบเงินสดกว่า 1 แสนบาท เอกสารจำนวนหนึ่ง พร้อมสมุดบัญชีเงินฝาก จึงได้ตรวจยึดไว้พร้อมกับเอกสารสำคัญอื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์และเอกสารที่มีการเชื่อมโยงกับวัดต่างๆ ที่มีการอ้างอิง
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพัฒนา ให้การปฏิเสธทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ บก.ปปป.
ทั้งนี้ จากการติดตามสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า เมื่อปี 2555 นายพัฒนา มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตเงินอุดหนุนวัดบำเพ็ญน้อย เขตมีนบุรี ซึ่งครั้งแรกเป็นเงิน 5,700,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวนเงิน 4,700,000 บาท และครั้งที่ 3 ที่วัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย โดยร่วมกันกับ นายณรงค์ชัย ชัยเนตร ข้าราชการอีกคนหนึ่งกระทำในลักษณะดังกล่าวรวม 9 ครั้ง เป็นเงิน จำนวน 19,250,000 บาท และยังตรวจสอบพบมีเอกสารที่เชื่อมโยงกับวัดอื่นๆ อีก คิดเป็นเงินทุจริตไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป. กล่าวว่า สำหรับจุดนี้ได้มีการตรวจสอบหาพยานหลักฐาน ทั้งเอกสาร และทรัพย์สิน เพื่อดูว่าทรัพย์สินที่มีอยู่เหมาะสมต่อรายได้หรือไม่ โดยเบื้องต้นยังไม่ได้มีการสอบคำให้การ เพราะจะต้องเชิญ นายพัฒนา ไปสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหาที่ บก.ปปป.
สำหรับ นายพัฒนา ถือเป็นบุคคลที่มีความเชื่อมโยงต่อคดีทุจริต เนื่องจากเป็นผู้ที่รับเงินอนุมัติไปที่วัด และไปของบเงินจากเจ้าอาวาสคืน ในลักษณะเงินทอนตามกระแสข่าวที่มีการติดตามคดีมาอย่างต่อเนื่อง