xs
xsm
sm
md
lg

“ออมสิน” ยันบี้โกงเงินทอนวัดต่อ ค้นบ้านขั้นตอนปกติ สตง.ชงหนังสือ 30 วัดเข้าข่าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รมต.สำนักนายกฯ เผยตำรวจ ปปป.บุกค้นบ้านผู้เกี่ยวข้องทุจริตเงินทอนวัด เป็นขั้นตอนปกติ แม้ยังไม่ได้รับรายงาน ยันเดินหน้าต่อแม้เปลี่ยนตัว ผอ.พศ. แย้ม สตง.ส่งหนังสือ 30 วัด อยู่ในข่ายทอนเงิน มูลค่า 300 ล้าน

วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เข้าตรวจค้นบ้านของเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดพร้อมกัน 14 จุด เมื่อเช้ามืดวันเดียวกันนี้ว่า เป็นกระบวนการทำงานของตำรวจ ปปป.ตามขั้นตอนปกติ และยังไม่ได้รายงานมาให้ตนทราบ ยืนยันว่าทุกอย่างยังเดินหน้าต่อแม้ว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง ผอ.พศ.แล้วก็ตาม แต่ทุกเรื่องจะหยุดไม่ได้ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป

เมื่อถามว่า ปปป.เข้าไปตรวจค้นบ้านผู้ที่เกี่ยวข้องแสดงว่ามีการเชื่อมโยงกับการทุจริตเงินทองวัดใช่หรือไม่ นายออมสินกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถาม ปปป. เข้าใจว่าเป็นกระบวนการทำงานของ ปปป.ที่ไปขอหมายศาลเข้าไปขอตรวจค้น

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการตรวจพบการทุจริตเงินทอนวัดเพิ่มเติมหรือไม่ นายออมสินกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มีหนังสือถึงตนโดยระบุว่าตรวจพบการทุจริตเงินทอนวัดประมาณ 30 วัด ส่วนใหญ่เป็นวัดขนาดเล็กทั่วประเทศ เท่าที่ตนจำได้ผู้เกี่ยวข้องมีฆราวาส 13 คน และมีพระครูในต่างจังหวัด 2 รูป ตนได้แจ้งให้ ผอ.พศ.ดำเนินการต่อแล้ว ส่วนข้าราชการ พศ.ทั้งนายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. น.ส.ประนอม คงพิกุล อดีตรอง ผอ.พศ. และข้าราชการระดับผู้อำนวยการสำนัก 3-4 คน ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน ถ้าทำงานต่อไปไม่ได้ก็ต้องพักงาน ที่เหลือเป็นระดับเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างมีระเบียบขั้นตอนทางราชการอยู่แล้ว ยืนยันว่าคดีความต่างๆ เราดำเนินการต่อ ไม่หยุดทำอะไรทั้งนั้น การดำเนินการในส่วนของตัวบุคคลนั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจ เรามีหน้าที่ให้ข้อมูลในส่วนที่เขาต้องการ วันนี้เราดำเนินการในส่วนของตัวบุคคลของเรา ถ้าเชื่อมโยงไปถึงพระก็ต้องดำเนินการต่อ เพราะถ้าไปสืบที่พระก่อนแล้วมาดำเนินการกับคนใน พศ.จะดำเนินการลำบาก และจากข้อมูลเป็นเรื่องที่คนของเราไปเสนอกับพระ

“ตามหนังสือ 30 เรื่องที่ สตง.ส่งมานั้นมีทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ คิดเป็นเงินประมาณ 300 ล้าน แต่เรื่องที่เกิดกินระยะเวลาหลายปี ตั้งแต่สมัยนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ดำรงตำแหน่ง ผอ.พศ. เรื่อยมาถึงนายพนม พฤติกรรมเหมือนกันคือไปบอกพระว่าจะให้เงินปฏิสังขรณ์วัดแล้วขอเป็นเงินทอน ให้ไป 2 ล้าน ขอคืนล้านสาม วัดในต่างจังหวัดที่มีพระรูปเดียวท่านคงไม่รู้ระเบียบราชการ และเมื่อเป็นข้าราชการสำนักพุทธฯ พระก็เชื่อ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้ปกป้องพระ แต่อ่านตามนั้น ส่วนเรื่องเงินทอนวัดมีมาตั้งแต่สมัยไหนนั้น ผมไม่รู้ และที่ตรวจสอบได้ครั้งนี้เขาดูจากการโอนเงินคืนเข้าบัญชีเพราะอาจชะล่าใจ รวมถึงไปขอคืนเป็นเงินสดแต่มีพยานบุคคลเห็น” นายออมสินกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น