จันทบุรี - ทีมสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และผู้นำชาวบ้าน ร่วมผ่าพิสูจน์ซากช้างป่าที่ล้มในพื้นที่สวนยางพารา อ.แก่งหางแมว เพื่อหาสาเหตุการตาย เบื้องต้น ทราบสาเหตุเกิดจากถูกไฟฟ้าช็อตตาย ด้าน ตร.เรียกตัวเจ้าของสวน พร้อมคนงานสอบสวนเพื่อตั้งข้อกล่าวหาแล้ว
วันนี้ (18 ก.ย.) ทีมสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ทหาร และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันเข้าตรวจผ่าพิสูจน์ซากช้างป่า เพศผู้ อายุ 20 ปี ที่ล้มในสวนยางพารา ม.5 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด หลังจากที่วานนี้ช้างป่าเพศผู้ได้ล้มในสภาพงวงพาดรั้วไฟฟ้า และมีร่องรอยคล้ายถูกอาวุธปืนยิงรวม 8 จุด
โดยการผ่าพิสูจน์ซากช้างป่าอีกครั้งของทีมสัตวแพทย์ก็เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากสาเหตุใด และหากพบว่าภายในซากช้างมีหัวกระสุนปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะเรียกตัว นายโอภาส สมสกุล เจ้าของสวนยางพารา มาทำการสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตรวจผ่าพิสูจน์ซากช้างป่าไม่พบหัวกระสุนปืน ส่วนรูที่พบบริเวณงวง ขา และลำตัวยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่เบื้องต้น สามารถพิสูจน์ได้ว่า สาเหตุการตายเกิดจากการถูกไฟฟ้าช็อตจากรั้วไฟฟ้าที่ นายโอภาส เจ้าของสวนได้กั้นเป็นแนวล้อมรอบสวนยางพารา และได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าถึง 220 โวลต์ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีตามพระราบัญญัติคุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2535
สำหรับช้างป่าเพศผู้ตัวตัวดังกล่าว เป็นช้างป่าเจ้าถิ่น และมีช้างป่าอีก 2-3 ตัว ที่หากินอยู่ในพื้นที่ ม.5 ตำบลพวา โดยไม่ใช่ช้างป่าจากโขลงช้าง 70 ตัว แต่อย่างใด
นายปกรณ์ สัคนานนท์ หัวหน้าการไฟฟ้าอำเภอแก่งหางแมว กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบที่บ้านพักภายในสวนยางพารา พบว่า เจ้าของสวนได้ใช้กล่องสร้างไฟกะพริบต่อกับไฟบ้าน ก่อนจะเชื่อมต่อเข้ากับลวด และโยงล้อมรอบสวนยางพารา และได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าประมาณ 220 โวลต์ ซึ่งอาจทำให้ช้างป่าเมื่อชนเข้ากับลวดไฟฟ้าจะทำให้กระแสไฟกระตุก หรือหากถูกลวดไฟฟ้าทั้งตัวก็อาจทำให้ล้มได้เช่นกัน