อุตรดิตถ์ - นายก อปท.จอมแฉนำข้าราชการสาวเหยื่อแก๊งปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหดขึ้นโรงพักแจ้งจับอดีตเมียผู้ว่าฯ คนดัง อ้างร่วมปล่อยกู้รีดดอกโหดร้อยละ 8 ต่อเดือน-ยึดบัตรเอทีเอ็ม/สมุดบัญชี พอเงินเดือนออกกดเงินหักดอกก่อนโอนที่เหลือให้ สะพัดมีคนใน สนง.โยธาฯ-อบจ.-เทศบาลฯ ร่วมด้วย ปล่อยกู้ข้าราชการ-ลูกจ้างทั่วเมือง
วันนี้ (11 ก.ย.) นายสิทธิชัย เจริญธนะจินดา นายกเทศมนตรีตำบลท่าเสา อ.เมืองอุตรดิตถ์ ที่ถูกคำสั่งพักงานตามมาตรา 44 ได้นำ น.ส.เมย์ (นามสมมติ) อดีตข้าราชการสังกัดเทศบาลตำบลท่าเสา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งข้าราชการพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.สนิท น้อยเซ็น รองสารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.เมืองอุตรดิตถ์
น.ส.เมย์ระบุว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2558 ได้ไปกู้เงินจาก นาง น.(นามสมมติ) อดีตภรรยาผู้ว่าฯ คนดังคนหนึ่ง ซึ่งรับราชการที่เทศบาลตำบลท่าเสา จำนวน 50,000 บาท ไม่มีระยะเวลาการใช้เงินต้นคืน และคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 บาทต่อเดือน ตกเดือนละ 4,000 บาท ส่วนเงินต้นมีเมื่อไหร่ให้นำมาคืนเป็นงวดเดียวหรือหลายงวดก็ได้ และมีการลงชื่อในแบบฟอร์มสัญญากู้เงินที่ไม่มีการกรอกข้อความใดๆ ลงไป แต่มีการจ่ายส่งดอกเบี้ยทุกเดือน
ซึ่งนาง น.อ้างว่าเงินที่นำมาปล่อยกู้ให้นั้นเป็นเงินของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์
และหลังจากกู้เงินแล้ว นาง น.ได้ยึดบัตรเอทีเอ็ม และสมุดเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขาอุตรดิตถ์ และสาขาจังหวัดใกล้เคียงของ น.ส.เมย์ เอาไว้ เมื่อถึงช่วงสิ้นเดือน เงินเดือนที่ได้รับจากการรับราชการจะถูกโอนเข้าสมุดบัญชีธนาคารแล้ว นาง น.ก็จะนำบัตรเอทีเอ็มของตนไปกดเอาเงินเอง ส่วนเงินเดือนที่เหลือจะถูกโอนให้ทางธนาคารกสิกรไทย สาขาอุตรดิตถ์
“ผลจากการที่ถูกคิดดอกเบี้ยแพงทำให้ได้รับความเดือดร้อนเพราะใช้เงินต้นไม่หมดสักที จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานเพื่อเอาผิดตามกฎหมาย”
ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้รายงานคดีที่เกิดขึ้นให้ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับทราบ เพื่อรายงานต่อให้ พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) อุตรดิตถ์ เนื่องจากคดีปล่อยเงินกู้นอกระบบเป็นคดีที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพล 1 ใน 16 รายการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) และสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ด้านนายสิทธิชัยกล่าวว่า ทราบข้อมูลว่ามีข้าราชการรวมกลุ่มกันปล่อยเงินกู้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ผู้ปล่อยกู้มีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการกอง และบางคนมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ ปล่อยเงินกู้ให้ข้าราชการท้องถิ่นภายในเทศบาลฯ รวมถึงลูกจ้างประจำ และลูกจ้างทั่วไปด้วย ทำให้เกิดความสงสัยต่อรายได้ของลูกน้อง เพราะบางคนมีรายได้ที่เกิดจากเงินเดือนแต่ชักหน้าไม่ถึงหลัง พอถามหลายคนตอบอ้อมๆ แอ้มๆ
กระทั่งทราบว่ามีการกู้เงินนอกระบบด้วยดอกเบี้ยแพงถึงร้อยละ 8 ผู้ปล่อยกู้เป็นถึงอดีตภริยาผู้ว่าราชการจังหวัดคนหนึ่ง และเป็นการปล่อยกู้นอกระบบด้วยการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 8 มานานเกือบ 10 ปีแล้ว ทุกคนที่กู้จะถูกยึดบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ เมื่อถึงสิ้นเดือนทุกครั้งเงินในบัญชีจะถูกกดออกมาหมด หักดอกเบี้ยแล้วจึงคืนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มให้ภายหลัง
“แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่เงินต้นจะหมด เรื่องนี้สามารถตรวจสอบทางธนาคารได้ว่าใครเป็นคนกดเงินลูกหนี้ที่มากู้”
นายสิทธิชัยกล่าวว่า พฤติกรรมแก๊งนี้จะปล่อยกู้ให้ข้าราชการพลเรือน และข้าราชการท้องถิ่น ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอฟากท่า อำเภอน้ำปาด และอำเภอบ้านโคก ยอดเงินที่กู้มีตั้งแต่ 10,000-400,000 บาท คาดมีลูกค้ากว่าร้อยรายที่ตกเป็นเหยื่อ
“กรณี น.ส.เมย์เป็นคนแรกที่กล้าเข้าร้องทุกข์และแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเอาผิดผู้ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยแพงมหาโหด และทำนาบนหลังคน รัฐบาลและหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยจะต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ เพราะคนปล่อยกู้เป็นถึงอดีตเมียผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ท., ป.ป.ช. และ ปปง. ต้องตรวจสอบถึงที่มาที่ไปของเงินปล่อยกู้ได้มาอย่างไร ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ มีการเสียภาษีถูกต้องไหม”
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์กล่าวว่า พล.ต.ต.อดิศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ทราบข้อมูลเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดที่ลงไปหาข้อมูลบนศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์พบว่า ที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์มีผู้ปล่อยเงินกู้เป็นชายชื่อ “ช.” ส่วนที่สำนักงาน อบจ.อุตรดิตถ์ 1 ราย เป็นหญิงชื่อว่า “น.” และที่สำนักงานเทศบาลท่าเสา 1 รายเป็นผู้หญิงชื่อว่า “บ.”
ทั้ง 3 คนเกี่ยวเชื่อมโยงการปล่อยเงินกู้มีลูกค้าที่เป็นข้าราชการพลเรือน ข้าราชการท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และลูกจ้างทั่วไป โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อเดือน ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด เข้าข่ายเป็นมาเฟีย หรือผู้มีอิทธิพล ที่จะต้องถูกปราบปรามตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
แหล่งข่าวคนเดิมจากสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์กล่าวด้วยว่า หลังเจ้าทุกข์แจ้งความแล้วเจ้าหน้าที่จะประสานทางธนาคารขอทราบถึงความเคลื่อนไหวสมุดบัญชีผู้ปล่อยกู้ และภาพจากกล้องวงจรปิดผู้กดเงินจากตู้เอทีเอ็ม หากสาวลึกไปคงต้องอาศัยหน่วยงาน ปปง.เป็นหลัก ส่วนจะเข้าข่ายถึงยึดทรัพย์หรือไม่ต้องดูผลสอบสวนก่อน