ลำปาง - เกิดเหตุฉาวอีกจนได้ นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยดังลำปางร้องถึงกรมฯ หลังเฒ่าตัณหากลับขับแท็กซี่ลูบขา-พูดจาส่อโอ้โลมอนาจาร เบื้องต้นพบอ้างเป็นสื่อฯ ขอทำใบขับขี่สาธารณะก่อนเช่ารถขับ เผยเจอลูกค้าสาวๆ เป็นไม่ได้วิ่งเข้าหาตลอด
นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดลำปางร้องเรียนไปยังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน กรมการขนส่งทางบก สายด่วน 1584 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ได้ใช้บริการรถแท็กซี่จากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปางไปยังมหาวิทยาลัย แต่ระหว่างทางถูกคนขับแท็กซี่ลวนลามโดยใช้มือแตะที่ขา และใช้วาจาส่อโอ้โลมอนาจาร
เมื่อทางศูนย์ฯ ได้รับเรื่องแล้วได้แจ้งมายังจังหวัดลำปางทั้งทางสำนักงานขนส่ง และสั่งการทางไลน์ไปยังกลุ่มไลน์ฝ่ายปกครองเพื่อให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น
ล่าสุดนายโสภณ พิทักษ์สาลี ขนส่งจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนยังไม่ทราบเรื่องเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รายงาน แต่มีบุคคลคนหนึ่งซึ่งก่อนหน้านี้ก็อ้างตัวว่าเป็นผู้สื่อข่าวมาตลอดได้มาขอทำใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ ซึ่งตนก็ถามว่าจะเอาไปทำอะไร เจ้าตัวบอกว่าจะนำไปขับแท็กซี่เพื่อหารายได้เพิ่ม ตนก็ให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้
ต่อมาคนที่อ้างตัวเป็นผู้สื่อข่าวคนเดิมก็ได้โทรศัพท์มาหาตน และบอกว่าขอให้ช่วยเหลือเรื่องลดหย่อนค่าปรับให้ด้วย ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบว่าเรื่องอะไร จึงถามว่าค่าปรับเกี่ยวกับอะไร เจ้าตัวก็บอกว่าเกี่ยวกับแท็กซี่ และยืนยันเพียงว่าเกี่ยวกับการขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่จะปรับหนึ่งหมื่นบาท ขอให้ตนช่วยและจะยอมจ่ายสองพันบาทได้หรือไม่ ตนจึงบอกไปว่าให้เอาข้อหามาให้ดูก่อนเพราะไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร และตามกฎหมายต้องมีค่าปรับเท่าไหร่
จากนั้นอีกสองวันเจ้าหน้าที่จึงนำรายงานมาเสนอตน ซึ่งตนก็ไม่ได้ดูรายละเอียดทั้งหมด แต่เห็นเป็นเรื่องร้องเรียนรวมอยู่ด้วยจึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ส่วนที่รับผิดชอบไปดำเนินการ
โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกบุคคลดังกล่าวมาทำการสอบสวนครั้งแรก แต่ด้วยที่เจ้าหน้าที่ระบุวันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ได้รับการร้องเรียน ทำให้ข้อมูลไม่ตรงกับผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งได้เตรียมหลักฐานมาพร้อมสรรพว่าในวันดังกล่าวตนปฏิบัติธรรมอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แค่ลงบันทึกไว้ และได้ติดต่อนักศึกษาที่ร้องเรียนอีกครั้ง และได้เข้าไปทำการสอบสวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เบื้องต้นทราบว่าวันที่ร้องเรียนไปนั้นไม่ใช่วันที่เกิดเหตุ แต่วันที่เกิดเหตุผ่านมาเดือนเศษแล้ว โดยมีพยานเป็นนักศึกษาที่เดินทางมาด้วยกัน 3 คน และข้อมูลในครั้งนี้ค่อนข้างแน่น แต่ขอสงวนรายละเอียดไว้ก่อน ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ย.) จะได้เรียกผู้ถูกกล่าวหามาโต้แย้งคำกล่าวหาอีกครั้งเป็นรอบที่สอง ซึ่งต้องรอดูว่าเจ้าตัวจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ
นายโสภณระบุว่า หากผู้ถูกกล่าวหารับสารภาพก็จะมีการปรับขั้นสูงสุดคือ 1,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ขนส่ง เกี่ยวกับเรื่อง การใช้วาจาไม่สุภาพ เสียดสี ดูหมิ่น ก้าวร้าว หรือแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมกับผู้โดยสาร ส่วนในด้านอนาจาร ผู้เสียหายจะต้องไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งจะเป็นคนละส่วนกับ พ.ร.บ.ขนส่ง
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้มีการประสานงานไปยังผู้ประกอบการที่ให้เช่ารถ และเจ้าของรถได้ยกเลิกการเช่ากับบุคคลดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ประสานไปยังสหกรณ์เดินรถลำปางซึ่งดูแลรถสาธารณะให้เข้มงวดกวดขันในเรื่องของผู้ขับรถสาธารณะด้วย หากมีการฝ่าฝืนก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาด
ขณะที่ผู้ประกอบการแท็กซี่ลำปาง ซึ่งมีให้บริการทั้งหมด 11 คัน เปิดเผยว่า หลังมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นถามว่าได้รับผลกระทบหรือไม่ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากแท็กซี่ส่วนใหญ่จะมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นทำให้ภาพลักษณ์ของแท็กซี่โดยรวมเสียหาย ลูกค้ามากกว่า 50% เมื่อขึ้นรถก็จะถามเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งคนขับแท็กซี่ต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล และขณะนี้บุคคลที่ก่อเหตุ ซึ่งตนคิดว่าไม่ได้ตั้งใจจะมาขับแท็กซี่ แต่คงมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง ก็ไม่ได้ขับแท็กซี่แล้ว ส่วนผู้ประกอบการที่ยังยึดอาชีพขับแท็กซี่เป็นอาชีพยืนยันว่าทุกคนยังให้บริการลูกค้าอย่างดี ขอให้ลูกค้าทุกคนสบายใจได้
“คนคนนี้อายุราว 60 กว่าแล้ว เพิ่งมาขับแท็กซี่ได้ประมาณเดือนกว่าสองเดือน ทุกคนก็เห็นพฤติกรรมในลักษณะนี้มาตลอด โดยเฉพาะเวลาที่มานั่งรอผู้โดยสาร เมื่อเห็นผู้โดยสารสาวๆ ก็จะรีบเข้าไปหา ไปจับแขนบ้าง และถามว่าจะไปไหน มีเงินค่ารถไหม แล้วก็จะควักเงินออกมาให้ และมักจะบอกว่าลุงยังโสด จะไปส่งให้เอาไหม ประเภทนี้ บางครั้งก็ลดราคาเพื่อให้เขานั่งไปด้วย”
ด้านนายประยูร แก้วเดียว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง ซึ่งดูแลการให้บริการด้านท่องเที่ยวและรถแท็กซี่ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ทั้งด้านการท่องเที่ยว และการบริการรถสาธารณะ ตนก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขณะนี้ก็ได้ให้ทำการยกเลิกการเช่ารถแท็กซี่กับบุคคลดังกล่าวไปแล้ว
“ส่วนในตำแหน่งที่ปรึกษาประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดลำปาง ซึ่งบุคคลดังกล่าวทำหน้าที่อยู่ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็จะนำเรื่องเข้าปรึกษากับคณะกรรมการอีกครั้งเพื่อให้พ้นจากตำแหน่งนี้ด้วย”