ศรีสะเกษ - ผู้การฯ ศรีสะเกษ เผยลายเซ็นขายรถเก๋งสาว อบต.ส่อเป็นลายเซ็นปลอม ขณะคำให้การ "ร.อ.ศภชัย" อ้างเหยื่อเอารถมาให้แล้วไม่ได้เจอกันอีกเลย ขัดแย้งหลักฐานที่พบว่ายังอยู่ด้วยกันหลังขายรถ ขณะที่พ่อมั่นใจลูกสาวหายไปแถว อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เชื่อยังมีชีวิตอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.60 ซึ่ง นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ล่าสุด ร.อ.ศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี ผู้สงสัยในคดีนี้ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนตำรวจภูธร จ.ศรีสะเกษ และปฏิเสธ 4 ข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวน ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (12 ส.ค.) พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการที่พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบลายมือชื่อในหลักฐานการซื้อขายรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน แล้ว น่าจะไม่ใช่ลายมือชื่อที่แท้จริงของ น.ส.จุฑาภรณ์ เนื่องจากพบความไม่คล้ายหลายส่วน
อีกทั้งจากคำให้การของ ร.อ.ศุภชัย ภาโส ผู้ต้องหาสำคัญรายนี้ ระบุว่า น.ส.จุฑาภรณ์ นำเอารถเก๋งมาให้ ร.อ.ศุภชัย ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งที่ อ.กันทรลักษ์ เพื่อให้นำเอารถไปขายให้ แล้วไม่ได้เจอกันอีกเลย แต่ปรากฏว่า จากการสอบสวนพบว่า ในวันที่ 3 ก.ค.60 เวลา 12.00 น. ร.อ.ศุภชัยและ น.ส.จุฑาภรณ์ อยู่ด้วยกันในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ก่อนที่ น.ส.จุฑาภรณ์ จะหายตัวไป
ขัดแย้งต่อคำให้การของ ร.อ.ศุภชัย ที่บอกว่า หลังจาก น.ส.จุฑาภรณ์ นำรถมาให้ที่ค่ายทหาร อ.กันทรลักษ์ แล้วก็ไม่ได้พบกันอีกเลย ซึ่งเรื่องนี้พนักงานสอบสวนจะได้ส่งเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการซื้อขายรถไปให้กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบลายมือชื่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ เพื่อเป็นการยืนยันให้ชัดเจนว่า เป็นลายมือชื่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ จริงหรือไม่อย่างไร
พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีทั้งชุดสืบสวน ภ.จว.ศรีสะเกษ ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรภาค 4 ได้ร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงทั้งพยานหลักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตามหาตัว น.ส.จุฑาภรณ์ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้เบาะแสแล้วว่าจะติดตามตัว น.ส.จุฑาภรณ์ จากจุดใดอย่างไร ซึ่งจะต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน
ส่วน ร.อ.ศุภชัย นั้น จนถึงขณะนี้ยังคงเป็นผู้ต้องสงสัยสำคัญเกี่ยวกับการหายตัวไปของ น.ส.จุฑาภรณ์ ส่วนการที่ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พร้อมด้วย นายบัวกัน อุ่นอ่อน ผู้ใหญ่บ้านโนนเจริญ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ได้ร้องขอรับการคุ้มครอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยนั้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บึงมะลู และ สภ.กันทรลักษ์ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่แล้ว
ทางด้าน นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานต่างๆ ตนเชื่อมั่นว่าลูกสาวของตนหายตัวไปในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยก่อนที่ น.ส.จุฑาภรณ์ จะหายตัวไป ได้มีการขับรถมาวนเวียนในเขตบ้านภูมิซรอล จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยัง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถววัดสวนผึ้ง ภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี ซึ่งตนเชื่อว่าลูกสาวของตนน่าจะมีชีวิตอยู่ ขอฝากความหวังไว้ที่ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ให้ช่วยติดตามลูกสาวของตนให้พบโดยด่วนด้วย