มัดแน่นมาก! ผู้การฯ ศรีสะเกษยันพยานหลักฐานครบสมบูรณ์ “ร.อ.” อุ้มสาว อบต.พบ พนง.สอบสวนแล้ว

ศรีสะเกษ- ตร.เตรียมแจ้งข้อหานายทหาร “ร้อยเอก” คดีอุ้มสาว ผอ.กองการศึกษา อบต.ชำ ศรีสะเกษ หายกว่า 1 เดือน ที่จะเข้าพบตามหมายเรียกบ่ายวันนี้ ผู้การฯ ยันพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ มัดแน่นมาก เผยแผนผังเหตุการณ์อุ้มหาย ทหาร “ร.อ.” ที่มาติดพันสาว อบต.นำเก๋งเหยื่อไปฝากขาย แล้วมีการขายต่อ ล่าสุดผู้ต้องหาเข้าพบ พนง.สอบสวนแล้ว





ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี รับราชการตำแหน่ง ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวไปอย่างลึกลับไร้ร่องรอยพร้อมรถยนต์เก๋งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 60 นานกว่า 1 เดือน ต่อมาวันที่ 20 ก.ค. 60 นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ และร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชน จากนั้นวันที่ 9 ส.ค. 60 นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ให้ดำเนินคดีกับ นายทหารยศ “ร้อยเอก” นายหนึ่ง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กษ 8201 เชียงใหม่ ที่ น.ส.จุฑาภรณ์ ขับขี่แล้วหายตัวไป ถูกนำไปขายและทำสีอยู่ที่อู่แห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และตรวจพบเส้นทางการเงินในบัญชีธนาคารของ น.ส.จุฑาภรณ์ มีการโอนเงินเข้าบัญชีของนายทหารยศ “ร้อยเอก” นายดังกล่าวหลายครั้งรวมกว่า 300,000 บาท

จากนั้น พ.ต.อ.ชัย ไชยพันธ์นา หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งของ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ออกหมายเรียกมอบให้ พ.ต.ท.สังวร วันทะวี สารวัตรสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ นำไปแจ้งนายทหารยศ “ร้อยเอก” นายดังกล่าว สังกัดกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาในข้อหาความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ ในวันนี้ (11 ส.ค.) ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น


ล่าสุดวันนี้ (11 ส.ค. ) พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าของวันนี้มีการประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดีนี้ ที่มี พ.ต.อ.นิพล บุญเกิด รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เป็นหัวหน้าชุดเพื่อสรุปผลการสอบสวน เนื่องจากขณะนี้หลักฐานที่พนักงานสอบสวนของคดีได้ทำการสอบสวนมาหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ซึ่งพยานหลักฐานแน่นหนามาก มั่นใจว่าจะสามารถทราบผลได้ในเร็วๆ นี้ว่า คดี น.ส.จุฑาภรณ์ที่หายตัวไปจะมีผลเป็นอย่างไรบ้าง

โดยในเวลา 13.30 น.วันนี้ (11 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ จะมีการแจ้งข้อกล่าวหานายทหารยศ ร้อยเอก คนหนึ่งที่ได้มีการออกหมายเรียกไปแล้วเพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐานและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างเต็มที่ หากนายทหารยศร้อยเอกไม่มาพบพนักงานสอบสวนของคดีนี้ตามหมายเรียกจะมีการออกหมายเรียกอีกครั้งหนึ่งก่อนขอศาลออกหมายจับต่อไป ตนเชื่อว่านายทหารยศร้อยเอกคงพร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองในคดีนี้

ล่าสุด มีรายงาน ร้อยเอกที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว คือ ร.อ.ศุภชัย ภาโส อายุ 30 ปี ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการประมวลความสัมพันธ์บุคคลและเหตุการณ์ในคดีนี้ เริ่มจาก น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 60 ต่อมาวันที่ 20 ก.ค. 60 นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ และเข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนทุกแขนง จากนั้นวันที่ 9 ส.ค. 60 นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ น.ส.จุฑาภรณ์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายทหารยศร้อยเอกนายหนึ่งที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร ซึ่งนายทหารคนนี้มีความสัมพันธ์กับ น.ส.จุฑาภรณ์ และได้นำเอารถเก๋งของ น.ส.จุฑาภรณ์ ไปฝากขายไว้กับนางสุชาวดี และได้มีการนำรถส่งต่อไปให้นายวิฑูรย์ เพื่อขายต่อไปให้กับ “ป๋าตั้ม” เจ้าของเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งในราคา 180,000 บาท

โดย “ป๋าตั้ม” ได้นำเอารถไปจ้างให้นายบุญชู เจ้าของอู่ซ่อมรถไม่มีชื่อใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ทำการซ่อมสีรถในราคา 15,000 บาท ก่อนที่จะนำเอารถไปขายต่อไป ซึ่ง “ป๋าตั้ม” ยืนยันว่าตนเองซื้อรถคันนี้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับความเป็นมาของรถแต่อย่างใด ส่วน น.ส.จุฑาภรณ์ ที่ถูกอุ้มหายไปนานกว่า 1 เดือน จนถึงวันนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม




ร.อ.ศุภชัย ภาโส เข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ