น้ำยังท่วมท้ายเขื่อนลำปาวโรงเรียนหลายแห่งปิดไม่มีกำหนด

กาฬสินธุ์ - ผลกระทบจากเขื่อนลำปาว เพิ่มระบายน้ำ ยังทำให้น้ำท่วมซ้ำพื้นที่ท้ายน้ำ 5 อำเภอ ทั้งพื้นที่การเกษตร ประมง สถานที่ราชการ ที่พักอาศัย เสียหาย ขณะที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และโรงเรียน สั่งปิดแล้วหลายแห่ง ด้าน อบจ.กาฬสินธุ์ จัดกำลังเร่งซ่อมสะพานชั่วคราวให้ชาวบ้านสัญจรผ่านได้

วันนี้ (2 ส.ค.) หลังเขื่อนลำปาวมีระดับน้ำสูงถึง 1,681 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 85% จำเป็นต้องระบายลงสู่ลำน้ำปาว วันละ 30 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรักษาสภาพของเขื่อน ทำให้ระดับน้ำท้าย ทั้งลำปาว และ ลำชี เอ่อขึ้นสูง และท่วมพื้นที่การเกษตร ประมง ที่พักอาศัย สถานที่ราชการใน 5 อำเภอ คือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ และ อ.ฆ้องชัย เสียหายกว่า 30,000 ไร่ รวมทั้งหมู่บ้าน วัด โรงเรียน อีกหลายแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ บ้านดอนยานาง, บ้านเชียงสา, บ้านดงยาง ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และบ้านท่าสินธุ์ ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ วิกฤตหนัก เพราะติดตลิ่งลำน้ำปาว

สถานการณ์ล่าสุด ปริมาณน้ำได้เอ่อเข้าท่วมโรงเรียนเชียงสาศิลปสถาน วัดป่าดอนยานาง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนดอนยานางศึกษา และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนสมบูรณ์ ต้องปิดทำการ เนื่องจากระดับน้ำเอ่อขึ้นสูงถึง .70 - 1 เมตร ต้องขนย้ายอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ เข้าไปในที่ปลอดภัย โดยใช้บริเวณวัดดอนยานาง เป็นศูนย์รับความช่วยเหลือและพักพิง พร้อมตั้งหน่วยบริการชั่วคราวให้กับชาวบ้านผู้เจ็บป่วยที่มาใช้บริการ


นายบรรจบ ภูมิ่งเดือน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้รุนแรงสุดในรอบ 15 ปี ทั้งนี้ หลังจากทราบประกาศเขื่อนลำปาวเพิ่มปริมาณระบายน้ำ ได้ประกาศเตือนชาวบ้านเตรียมรับมือ ขนย้ายสิ่งของขึ้นบนที่สูง ส่วนที่อยู่ติดตลิ่งให้อพยพก่อน จึงสามารถรับมือได้ระดับหนึ่ง แต่ส่วนที่ได้รับผลกระทบ คือ ที่พักอาศัย กระแสน้ำได้เอ่อท่วม จึงได้อพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบหนักมาที่ศูนย์พักพิงวัดดอนยานาง

นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้อำเภอที่จะได้รับผลกระทบทั้งหมด เตรียมรับมือและวางแผนช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องเตรียมศูนย์พักพิง เตรียมเรือ ตลอดจนเรื่องดูแลอาหาร อย่างไรก็ตาม หน่วยงานต่างๆ ทั้งส่วนราชการ เหล่ากาชาด มูลนิธิต่างๆ ยังคงลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ไม่ให้ตื่นตระหนก และติดตามข่าวสารราชการ ให้รู้การเคลื่อนตัวของมวลน้ำ ตลอดจนลงพื้นที่เยี่ยมเยือน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจก้าวพ้นวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้

ด้าน นายยงยุทธ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ มอบหมายให้ นายอนันต์ จิตพันธ์ สมาชิก อบจ.อำเภอนามน, นายไชยศิริ โรจนกิจ ผอ.กองช่าง อบจ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่างและผู้นำชุมชนลงพื้นที่ซ่อมแซมสะพานคอนกรีตข้ามลำห้วยหลัว บริเวณบ้านสงเปือย ม.9 ต.สงเปือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นถนนเชื่อมระหว่าง ต.สงเปือย อ.นามน ไปยัง ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง หลังถูกกระแสน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาภูพานกัดเซาะ จนทำให้คอสะพานขาดเป็นหลุมลึกกว่า 3 เมตร ยาวกว่า 10 เมตร ทำให้ชาวบ้านสัญจรยากลำบาก


ทั้งนี้ ชาวบ้านได้นำแผ่นไม้มาวางเพื่อข้ามสะพานชั่วคราว แต่ทำได้เพียงรถจักรยานยนต์ผ่านได้เท่านั้น สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนใน 2 อำเภอ โดยเจ้าหน้าที่นำแผ่นปูนมาวางทับหลุม เพื่อให้รถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งแก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน เนื่องจากกระแสน้ำบริเวณดังกล่าวยังไหลเชี่ยวไม่สามารถซ่อมให้สมบูรณ์ได้ หากระดับน้ำลดลงจะเร่งซ่อมแซมสะพานกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม