กาฬสินธุ์ - หลังน้ำท่วมหนักในรอบ 40 ปี กว่า 10 ชุมชนในเขต ทม.กาฬสินธุ์ ถูกน้ำท่วม จนเข้าสู่ภาวะปกติ นายกเล็กเมืองน้ำดำนำกำลัง จนท.- ประชาชนทุกภาคส่วน ทำความสะอาดชุมชนครั้งใหญ่ ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว ยังคงระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนวันละ 30 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากยังมีน้ำไหลหลากเข้าเขื่อนจำนวนมาก
วันนี้ (2 ก.ค.) สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว ยังคงมีปริมาณน้ำไหลหลากเข้ายังตัวเขื่อนจำนวนมาก ล่าสุด ตัวเลขจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปาว แจ้งว่า มีมวลน้ำไหลหลากเข้ามายังเขื่อนประมาณ 36 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่การระบายน้ำอยู่ที่วันละ 30 ล้าน ลบ.ม. ทำให้เขื่อนลำปาวขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,681 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 85 จากความจุอ่างที่ 1,980 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนจุดน้ำท่วมใหญ่ที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ หลายหน่วยงานเร่งเข้าทำความสะอาดและฟื้นฟูช่วยเหลือประชาชน ภายหลังเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และหลังจากการตรวจสอบเส้นทางการเดินของน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสีทน ภายหลังจากที่พายุฝนหยุดตก พบว่า ชุมชน 11 แห่ง ตลอดแนวเขตถนนสายอนรรฆนาค เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ มวลน้ำได้ไหลลงสู่ลำน้ำปาวอย่างช้าๆ
นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จิตอาสาจากวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์ ทำความสะอาดวัดหอไตรปฏิการาม ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมฯ และบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วม
ส่วนทางด้านวิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์ นำนักศึกษาเข้ามาซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้าและรถทุกชนิดฟรีให้กับผู้ประสบภัย
ขณะที่ผลจากการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ซึ่งได้เพิ่มปริมาณเป็นวันละ 30 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลกระทบให้กับพื้นที่ราบลุ่ม เขตชลประทาน ที่พื้นที่เสี่ยง 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย อ.ยางตลาด และ อ.ร่องคำ เป็นปัญหาการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาว ซึ่งในขณะนี้ระดับน้ำท่วมพื้นที่นาข้าวบางแห่งสูงเกือบ 2 เมตร
ขณะที่ลำนำชี ซึ่งเกิดจากการระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เริ่มทำให้พนังกั้นน้ำในเขตตำบลเจ้าท่า อำเภอฆ้องชัย ทรุดถึง 3 จุด เจ้าหน้าที่และชาวบ้านยังคงเฝ้าระวัง แต่คาดว่าหากในอีก 7 วัน ไม่มีฝนตก สถานการณ์น้ำในพื้นที่ก็จะคลี่คลาย
