กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ประชุมด่วน สั่งเฝ้าระวังพื้นที่ลุ่มต่ำ 5 อำเภอติดลำน้ำปาว ลำน้ำพาน และแม่น้ำชีรับมือน้ำท่วมเพิ่ม เตรียมพร้อมอพยพทันที เหตุเขื่อนลำปาวมีน้ำสูงถึง 80% เร่งระบายออกวันละ 20 ล้าน ลบ.ม.รักษาสภาพเขื่อน ขณะที่ชาวบ้านสุดช้ำน้ำท่วมนาข้าวเสียหาย โอดไม่มีผลิตขายใช้หนี้ ธ.ก.ส. ประเมินนาข้าวปีนี้อาจเสียหายถึง 1 แสนไร่
วันนี้ (30 ก.ค. ) นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่เสี่ยงภัยถูกน้ำท่วมประชุมด่วนประเมินสถานการณ์น้ำ และชี้แจงการระบายน้ำเขื่อนลำปาว เนื่องจากขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำกักเก็บที่ 1,567 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่าง จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ลำน้ำปาวเพิ่มอีกเป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. จากเดิมระบายวันละ 15 ล้านลบ.ม. แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังพื้นที่ท้ายน้ำทั้ง 5 อำเภอตลอด 24 ชั่วโมง ประเมินสถานการณ์ทุก 3 ชั่วโมง ตลอดจนแจ้งข่าวเตือนทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เตรียมช่วยเหลืออพยพประชาชนไปอยู่ที่ปลอดภัยและจุดพักพิงที่จัดเตรียมไว้ทันทีหากน้ำท่วมเพิ่มขึ้น สำหรับความเสียหายเบื้องต้นทั้ง 15 อำเภอมีนาข้าวถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 60,000 ไร่ จาการประเมินอาจจะเพิ่มขึ้นอีกรวมแล้วกว่า 100,000 ไร่
ทั้งนี้ อิทธิพลพายุเซินกาส่งผลให้อ่างเก็บน้ำมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเอ่อท่วมนาข้าว บ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะ ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ระดับน้ำลำน้ำปาวทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และมีต้นไม้ล้มขวางถนนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้นานกว่า 3 วัน ซึ่งชาวบ้านได้แจ้งไปยังเทศบาลตำบลหลุบ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบ ให้ช่วยแก้ปัญหาให้ประชาชน แต่ไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ทำให้ชาวบ้านกว่า 10 ครัวเรือนไม่สามารถออกมาซื้อน้ำดื่มไปบริโภคได้
นายสมใจ ขันธบูรณ์ อายุ 60 ปี ชาวบ้านช้างอียอ ม.5 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วม ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ครั้งนี้รุนแรงสุดรอบหลายสิบปี เพราะระดับน้ำขยายวงท่วมนาข้าวเข้ามาถึงที่พักอาศัย ซึ่งไม่เคยเกิดมาก่อน ทั้งนี้ ขณะน้ำกำลังไหลทะลักเข้ามา ชาวบ้านต่างพากันปรับดิน ทำคูกั้นน้ำ และนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออก แต่ก็ไม่ไหวเพราะน้ำมีมาก ทำได้เพียงนั่งร้องไห้ดูน้ำเอ่อเข้าท่วมนาข้าวเท่านั้น คาดว่านาข้าวน่าจะเสียหายทั้งหมด ทำให้ปีนี้ชาวบ้านคงไม่มีข้าวขายมาใช้หนี้ ธ.ก.ส.
นอกจากนี้ กระแสน้ำยังทำให้ต้นไม้ล้มขวางถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กไม่สามารถออกไปซื้อน้ำดื่มได้ ซึ่งชาวบ้านแจ้งไปยังเทศบาลตำบลหลุบ หน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่นานกว่า 3 วันแล้ว แต่ไม่มีการแก้ไขเพราะเป็นวันหยุดราชการ ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำดื่ม ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือแล้ว