บุรีรัมย์ - ชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยาง และตัวแทนชาวสวนยางจากหลายจังหวัดทั่วประเทศติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงค่ายางพาราที่ สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ หลังแจ้งความเอาผิดบริษัทรับซื้อยางรายใหญ่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่เบี้ยวเงินกว่า 50 ล้าน พร้อมแฉกลโกงเพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก ขณะตำรวจเรียกบริษัทที่ถูกแจ้งความรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมส่งฝากขังศาล
วันนี้ (25 ก.ค.) ชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยาง และตัวแทนชาวสวนยางจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ได้เดินทางมาที่ สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังจากได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดบริษัทรับซื้อยางพารารายใหญ่แห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช โดยกล่าวหาว่าบริษัทดังกล่าวฉ้อโกงเงินค่ารับซื้อยางพาราของชุมนุมสหกรณ์ และชาวสวนยางรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
โดยเมื่อปี 2559 ทางบริษัทได้เปิดโควตารับซื้อยางพาราจำนวน 2,000 ล้านตัน ทั้งเสนอราคารับซื้อยางสูงกว่าท้องตลาด 4-5 บาทด้วย เพื่อจูงใจให้มีการนำยางมาขาย จากนั้นทั้งชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยาง และชาวสวนยางจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคอีสาน จึงได้รวมกลุ่มกันเพื่อรวบรวมยางส่งขายให้บริษัทดังกล่าว โดยเปิดจุดรวบรวมยางที่ “ลานคนเกษตร” ต.ส้มป่อย อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์
ทางชุมนุมสหกรณ์และตัวแทนชาวสวนยางได้ทำการรวบรวมยางพาราจากเกษตรกรผู้ปลูกยางส่งให้บริษัทดังกล่าวเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา รวมจำนวน 800,000 กิโลกรัม โดยมีหลักฐานเป็นใบชั่งน้ำหนักปริมาณยางและราคาที่ส่งให้กับทางบริษัท แต่ทางบริษัทกลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินให้ทางชุมนุมสหกรณ์และตัวแทนชาวสวนยาง คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 50 ล้านบาท เมื่อไปทวงถามทางบริษัทกลับปัดไม่รับผิดชอบอ้างว่าได้จ่ายให้กับคนกลางไปแล้ว สร้างความเดือดร้อนให้กับทางชุมนุมและเกษตรกรชาวสวนยางเป็นอย่างมาก จึงได้พากันเข้ามาแจ้งความเอาผิดทางบริษัท
นายชวลิต เจริญศิริ ตัวแทนผู้รวบรวมยางจากเกษตรกรหลายจังหวัดภาคอีสาน กล่าวว่า ทางบริษัทมีเจตนาจะโกงเงินค่ายางของทางชุมนุมสหกรณ์ฯ และชาวสวนยาง เพราะหลังจากมีการรวบรวมยางส่งให้กับทางบริษัทแล้ว 800,000 กิโลกรัม เป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท แต่ทางบริษัทกลับไม่ยอมโอนเงินให้ ทำให้ทั้งทางชุมนุมสหกรณ์ฯ และตัวแทนชาวสวนยางที่เป็นผู้รวบรวมยางจากเกษตรกรหลายจังหวัดเพื่อส่งให้กับทางบริษัทได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้าน นายอารม วารี ผู้รวบรวมยางจากชุมนุมสหกรณ์กองทุนสวนยางที่ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เฉพาะที่ตนรวบรวมยางส่งให้ทางบริษัทได้รับความเสียหายถึง 13 ล้านบาท โดยสาเหตุที่รวบรวมยางส่งขายให้บริษัทดังกล่าวเพราะให้ราคาดีสูงกว่าท้องตลาดทั่วไป แต่ไม่คิดว่าจะมาถูกทางบริษัทเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินค่ายางให้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการคดีดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและเป็นธรรมเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางด้วย
ขณะที่ล่าสุดทางเจ้าของและกรรมการบริษัทที่ถูกแจ้งความกล่าวหาได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามที่ถูกออกหมายเรียก เบื้องต้นได้ถูกแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงค่ายางพารา” พร้อมทั้งได้ทำการสอบปากคำเพื่อรวบรวมหลักฐาน และผู้ถูกกล่าวหา ส่งฝากขังศาลจังหวัดนางรอง ส่วนผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล