ลำปาง - พบพิธีกรรมสุดอัศจรรย์ “สู่ผีลง” ติดต่อคนตายไปแล้วไม่เกิน 7 วันของชาวล้านนายังมีอยู่ ล่าสุดลูกหลานและญาติพี่น้องให้ทำพิธีเชิญวิญญาณญาติผู้ใหญ่ที่เสียชีวิต และตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่เข้าร่างทรง หรือม้าขี่ พบแสดงอาการเหมือนคนตายเป๊ะ กินของชอบ-กอดลูกชายตลอด จนญาติร่ำไห้กันระงม
วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของคุณแม่จันทร์ดี ตาจันทร์วงศ์ อายุ 66 ปี ซึ่งเสียชีวิตได้ประมาณ 4 วัน ขณะที่ยังคงตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้าน ได้พากันมาขอให้คุณยายมวล รุ่งเรือง ซึ่งเป็นร่างทรง หรือม้าขี่ ที่ทำสำหรับผู้ต้องการสอบถามถึงผู้ป่วย-คนที่ตายไปแล้ว ทำพิธีติดต่อกับคุณแม่จันทร์ดี ที่บ้านทรายใต้ ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ที่ชาวบ้านเรียกว่า “บ้านเจ้าพ่อ”
หลังจากก่อนหน้านี้คุณแม่จันทร์ดีป่วยหนักเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และมาเสียชีวิตขณะลูกหลานพากลับบ้าน จึงไม่ได้พูดคุย หรือสั่งเสีย ทำให้ลูกหลาน และญาติพี่น้องยังไม่สบายใจเพราะไม่ได้สั่งลากัน
โดยทำพิธีเชิญวิญญาณของคุณแม่จันทร์ดีมาลง หรือที่เรียกว่าพิธีกรรม “สู่ผีลง” ที่ชาวเหนือเชื่อว่าหากต้องการสื่อกับวิญญาณผู้ตายที่ตายไปไม่เกิน 7 วัน ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ ซึ่งเป็นการเชิญให้วิญญาณผู้ตายมาเข้าร่างทรง หรือม้าขี่ เพื่อสอบถามสาเหตุการตาย หรือพบปะพูดคุย และสั่งเสียกันเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนจะเริ่มพิธีกรรมทางครอบครัวคุณแม่จันทร์ดีก็ได้ทำพิธีบอกแม่พระธรณีที่บ้าน โดยการจุดธูปเทียน และนำข้าว-กล้วยไหว้ ไปปักบอกกล่าวแม่พระธรณี ณ หน้าบ้านที่ตั้งศพของคุณแม่จันทร์ดีไว้ เพื่อขอให้วิญญาณออกจากบ้าน จากนั้นทางม้าขี่ (คุณยายมวล) ก็จะประกอบพิธีเพื่อเรียกวิญญาณของผู้ตายเข้าร่างตนเอง
โดยม้าขี่จะทำพิธีก่อนที่จะล้มลงนอน และลุกขึ้นก็จะกลายเป็นอีกคนคือลักษณะคล้ายกับผู้ตายมาเข้าร่างแล้ว ซึ่งลูกหลานคุณแม่จันทร์ดีก็จะมีการทดสอบว่าคุณแม่จันทร์ดี มาเข้าร่างจริงหรือไม่ ด้วยการนำรูปมาให้ม้าขี่ดูว่าจำตัวเองได้ไหม เป็นคนไหนให้ชี้ที่รูป พร้อมนำอาหารทั้งที่ชอบ และไม่ชอบกินมาทดสอบว่าเป็นคุณแม่จันทร์ดีจะกินอาหารชนิดไหน
ซึ่งปรากฏว่าม้าขี่ (คุณยายมวล) ได้เลือกอาหารที่คุณแม่จันทร์ดีชอบ คือ ขนมครก และแกงผักกาด ส่วนข้าวมันไก่ไม่ชอบกินก็ให้เก็บไป พร้อมกับกอดลูกชายที่คุณแม่จันทร์ดีรักมากที่สุดเกือบตลอดเวลา ทำให้ลูก หลาน และญาติเชื่ออย่างสนิทใจว่าผู้ที่มาเข้าร่างของม้าขี่คือคุณแม่จันทร์ดีจริง เมื่อได้เห็นและได้ฟังดังนั้นแล้วต่างก็พากันร้องไห้กันระงม
หลังจากนั้นลูกหลานได้ซักถามม้าขี่เหมือนกับพูดคุยกับคุณแม่จันทร์ดีเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งม้าขี่ก็บอกว่า ก่อนหน้านั้นที่เจ็บป่วยทรมานมาก แต่หลังจากที่เสียชีวิตก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ได้ไปดูชั้นต่างๆ ได้ไปกราบไหว้พระแก้วจุฬามณี ได้ไปเห็นหลายชั้นภพ จึงได้สอนลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ว่า ขอให้หมั่นทำความดีในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนตนเองไม่ต้องห่วง ไปสบายแล้ว ก่อนที่จะพูดคุยกันบอกลาและสั่งเสียลูกหลานเป็นครั้งสุดท้ายให้ทุกคนรักกัน ส่วนสิ่งที่อยากได้มีแค่ชุดสีขาว และอยากได้รูปที่ไปเที่ยวชายทะเลกับน้องชายเท่านั้น
หลังจากม้าขี่ได้ใช้เวลาพูดคุย และสั่งลาลูกหลานจนเป็นที่พอใจนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ได้นอนลง ซึ่งลูกหลานบอกว่าเวลานอนเหมือนตอนที่คุณแม่ป่วย และนอนบนเตียงผู้ป่วยมาก และสุดท้ายก็ลาจากกันไปโดยไม่มีอะไรค้างคาใจต่อกันอีก หลังเสร็จพิธีทางลูกหลานก็จะนำเงินดอกไม้ไปวางบนพานเพื่อเป็นค่าขัน 199 บาท ค่าดำหัว 200 บาท
สำหรับพิธีกรรม “สู่ผีลง” นี้ถือเป็นความเชื่อของคนโบราณทางภาคเหนือ ซึ่งผู้ที่ได้สัมผัสก็จะเชื่อในสิ่งลี้ลับที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ลูกหลาน หรือญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจะสัมผัสได้ และถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่สบายใจ หมดห่วงกังวล เพราะถือว่าได้บอกลา ขออโหสิกรรมต่อผู้ตายแล้ว