ฝนตกไม่หยุด น้ำทะลักเข้าเขื่อนแควน้อยเพิ่ม แต่เขื่อนสิริกิติ์น้ำยังน้อย

พิษณุโลก - ฝนลงต่อเนื่องทำน้ำไหลเข้าเขื่อนแควน้อยไม่หยุด ล่าสุดกักเก็บได้แล้วกว่า 40% ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์น้ำยังน้อย ต้องบินทำฝนหลวงช่วย ด้าน มทภ.3 ตามส่องโครงการขุดลอกคลองชลฯพรหมพิราม 1 ใน 43 แผนงานป้องน้ำท่วม-แก้แล้ง ใน 10 จว.เหนือ

วันนี้ (14 ก.ค.) พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาเรื่องภัยอันเกิดจากน้ำ (กรมชลประทาน) ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองเมม บ้านท่าช้าง ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ตามโครงการที่กองทัพบก, กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการ 43 แผนงานในพื้นที่ 10 จังหวัดในภาคเหนือ เพื่อช่วยการระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก แก้ปัญหาอุทกภัย ด้วยการปรับปรุงคันคลอง เพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำในห้วงฤดูแล้งบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ พร้อมปรับปรุงถนนเส้นทางสัญจรข้างคันคลอง เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรและขนส่งผลผลิตทางการเกษตร

พล.ท.วิจักขฐ์กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 3 มอบให้กรมทหารช่างที่ 3 กองพันทหารช่างที่ 302 กองพันทหารช่างที่ 4 และกองพันทหารช่างที่ 8 เข้าดำเนินการในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก 7 แผนงาน คือ แผนงานพัฒนาแหล่งน้ำคลองวังขอน แผนงานเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองเมม ตำบลท่าช้าง อ.พรหมพิราม แผนงานแก้งลิงตลุกอีแลน ตำบลชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ

แผนงานพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรหนองสามคลอง ตำบลท่าโพธิ์ ตำบลท่าทอง อำเภอเมืองพิษณุโลก แผนงานเพิ่งประสิทธิภาพการส่งน้ำ C27 ตำบลวัดพริก อำเภอเมืองพิษณุโลก แผนงานปรับปรุงถนนคันคลองส่งน้ำชลประทาน ตำบลท่าทอง ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมืองพิษณุโลก-ตำบลบ้านไร่ ตำบลโคกสลุด อำเภอบางกระทุ่ม และแผนงานแก้มลิงบึงบ้านโนน ตำบลหินลาด อำเภอวัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก

เมื่อโครงการทั้งหมดเสร็จสิ้นในเตือนตุลาคม 60 จะสามารถเพิ่มปริมาณในการกักเก็บน้ำ และรับน้ำ ได้เพิ่มจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1,380,000 ลบ.ม. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยท่อระบายน้ำ และประตูระบายน้ำรวม 68 แห่ง ประชาชนในพื้นที่ จะได้ใช้เส้นทางสัญจร ขนส่งผลิผลิตทางการเกษตรได้สะดวกเพิ่มเติมอีกกว่า 49 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันผลงานหรือความคืบหน้ากว่าร้อยละ 44.57

ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้พบปะผู้นำท้องถิ่น และประชาชน หลังจากหน่วยราชการได้จัดประชาคมพร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ให้มีส่วนร่วมกับโครงการดังกล่าว และหลังจากมีฝนตกทั่วพื้นที่ โดยเฉพาะพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลเข้าเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสามารถกักเก็บน้ำ อยู่ที่ 417.96 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 44.51% ใช้การได้จริงอยู่ที่ 374.96 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 41.84% ส่วนการระบายน้ำของเขื่อน ได้เริ่มปรับแผนลดการระบายน้ำ วันละ 4.32 ล้าน ลบ.ม.

น.ส.สุมามาศ ไชยวงค์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า เนื่องจากเขื่อนสิริกิติ์ยังคงมีปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย ขณะที่น้ำในพื้นที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนถือว่าค่อนข้างดี มีฝนตกมาหลายพื้นที่ ทำให้ทางหน่วยฝนหลวงต้องปรับแผนการปฏิบัติงานตามสภาพอากาศที่เกิดขึ้น โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลกได้นำเครื่องคาซ่า 2 ลำ และคิงแอร์ อีก 1 ลำ ช่วยบินทำฝนหลวงเหนือเขื่อนสิริกิติ์ แทนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ตั้งแต่ 1 ก.ค.เป็นต้นมาแล้ว