ลำปาง - เหยื่อแชร์ลูกโซ่ชาวลำปาง พร้อมทนายความหอบหลักฐานขึ้นโรงพักแจ้งตำรวจล่าตัว ดร.ฉาว พร้อมเมียใน-นอกสมรสดำเนินคดีฐานฉ้อโกง หลังหลอกลงทุนซื้อเห็ดหลินจือ 1 หมื่นต่อ 1 หุ้น แลกปันผล 10% ต่อเดือน ก่อนเชิดเงินหนีเข้ากลีบเมฆหลายสิบล้าน
วันนี้ (12 ก.ค.) นายเอกสิทธิ์ มานะรุ่งโรจน์ ทนายความ พร้อมผู้เสียหาย ซึ่งเป็นชาวลำปาง และจังหวัดใกล้เคียงในเขตภาคเหนือ รวม 20 คน จากทั้งหมด 110 คน ได้นำนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.จักรตุลย์ ทองกิ่ง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำปาง
เพื่อให้ดำเนินคดี นายมานพ นางสาวมลศิริ และ นางยุดี (ขอสงวนนามสกุล) ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน หลังมาชักชวน และหลอกให้ผู้เสียหายทั้งหมดซื้อผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือแบบลูกโซ่มานานกว่า 3 ปี ก่อนเชิดเงินไปมูลค่าควมเสียหายรวมกว่า 26 ล้านบาท
นายเอกสิทธิ์กล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายชาวลำปางต้องสูญเงินไปกว่า 26 ล้านบาท หลังทุกคนถูกหลอกให้เล่นแชร์ลูกโซ่มานานกว่า 3 ปี โดยแรกๆ ได้ถูกชายคนหนึ่งที่มาพร้อมภรรยา และหญิงสาวที่เป็นภรรยานอกสมรส ชักชวนให้ร่วมลงทุน
โดยให้ซื้อผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือผง กล่องละ 400 บาท รวม 25 กล่อง รวมราคาเป็นเงิน 10,000 บาท คิดเป็น 1 หุ้น และจะได้รับเงินปันผลหุ้นละ 1 พันบาทต่อ 1 เดือน แยกจ่ายเป็นเงินสด 800 บาท คูปองส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าครั้งต่อไป 200 บาท หักค่าโอน 25 บาท คงเหลือที่สมาชิกจะได้รับจริงคือประมาณ 775 บาทต่อเดือนต่อหุ้น
ในช่วงแรกนายมานพ และพวกอีก 2 คนจะใช้อุบายหลอกลวง โดยการจ่ายเงินรายเดือนตรงตามกำหนดต่อเนื่อง และชักชวนโน้มน้าวให้สมาชิกนำเงินมาลงทุนเพิ่มเติม บางรายลงทุนคนละ 1 ล้านกว่าบาทเพื่อซื้อสินค้าเห็ดหลินจือเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการชวนเชื่อว่า เมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้วจะมีสวัสดิการในการช่วยซื้อบ้าน ซื้อรถ ในลักษณะมอบเงินดาวน์ให้ ตลอดจนยังเปิดให้ร่วมหุ้นในโครงการกองทุนรวมเพื่อระดมทุนซื้อที่ดิน สร้างอาคารในการตั้งบริษัทเล่นแชร์ลูกโซ่ดังกล่าว ซึ่งจะทำให้มีรายได้ระยะยาว และได้รับสวัสดิการต่างๆ
นายเอกสิทธิ์ระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผู้เสียหายก็ได้รับเงินปันผลตามที่ลงทุนไป โดยยอดเงิน 1,000 บาท หรือ 1 หุ้นก็จะจ่ายเป็นเงินสด 800 บาท ที่เหลือออกมาเป็นคูปองเพื่อใช้ซื้อสินค้าในครั้งต่อไป และยังถูกหักค่าโอนเงินอีก 25 บาท ฉะนั้นจริงๆ 1 หุ้นจะได้รับเงินสดแค่ 775 บาท และได้จ่ายปันผลให้ทุกคนติดต่อกันเป็นเวลาร่วม 3 ปี จึงทำให้ทุกคนเชื่อถือและเพิ่มการลงทุนมากขึ้น
กระทั่งเดือนเมษายน 2560 เป็นต้นมา นายมานพก็หอบเงินที่ลงทุนหนีไปกว่า 26 ล้านบาท ไม่มีการจ่ายเงินปันผลอีก ติดต่อก็ไม่ได้ ทำให้ผู้เสียหายชาวลำปาง ซึ่งเป็นทั้งคนทำงานทั่วไป อดีตข้าราชการ พนักงานบริษัท หรือบางคนเป็นถึงอดีตนายพล ที่ถูกหลอก จึงให้ทนายรวบรวมบุคคลที่เสียหาย และหลักฐานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ในข้อหาฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนดังกล่าว
ด้านพลตรี ทรงพล ศรีนาคา อายุ 70 ปี อดีตข้าราชการทหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายชาวลำปาง ที่เดินทางมาร่วมแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ บอกว่า ผู้เสียหายในลำปาง และจังหวัดใกล้เคียงมีมากกว่า 500 คน แต่รวบรวมรายชื่อมาได้เพียงเท่านี้ก่อน ที่เหลือจะทยอยมาแจ้งความภายหลัง
พลตรี ทรงพลบอกว่า ที่ตนหลงเชื่อไปในตอนแรกนั้นเนื่องจากชายคนดังกล่าวเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือ มีดีกรีเป็นถึงดอกเตอร์ จึงคิดว่าไม่น่าที่จะมาหลอกกัน จึงได้ร่วมลงทุนไปกว่า 600,000 บาท แต่สุดท้ายก็ถูกหอบเงินหนีไปหมด ซึ่งผู้เสียหายบางคนก็ถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวไปเลยก็มีหลังนำเงินมาลงทุน เพราะคิดว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี บางคนก็ต้องหมดเงินไปกว่าล้านบาท