พระนครศรีอยุธยา - กรุงเก่าอุบัติเหตุ 2 ครั้งซ้อนเพียงข้ามคืน! เก๋งกระบะชนกันกลางถนน บัสโดยสารมองไม่เห็นเสยกลางก่อนไปคาบนแบริเออร์เกาะกลาง หวิดเกิดโศกนาฏกรรม อีกรายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เบรกแตกพุ่งชนรถจอดติดไฟแดงกลางสี่แยกพังยับ เจ็บระนาว
เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (9 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะหัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบัสโดยสาร ชนกับรถเก๋ง รถกระบะกลางถนน สายเอเชียขาขึ้นนครสวรรค์ ช่วงหลัก กม.ที่33+900 ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยรถกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะหัน และกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์บัสโดยสารสีฟ้าขาว กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์ 10-1620 ปทุมธานี สภาพด้านหน้าพังยับ พุ่งเกยบนแบริเออร์เกาะกลางถนน ภายในรถยังพบผู้โดยสารนั่งอยู่อย่างหวาดเสียว กลางถนนใกล้กันพบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ สตราด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บย 7464 พระนครศรีอยุธยา สภาพพังยับทั้งคัน
ภายในรถพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขาหัก อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลบางปะหัน เร่งให้การช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลบางปะหัน เพื่อเร่งให้การรักษา ห่างไป 10 เมตร พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กม 3693 กรุงเทพมหานคร สภาพขวางถนน รถด้านหน้าพังเสียหาย ด้านท้ายถูกอัดติดแบริเออร์
สอบถาม นายสุริยัน ฟุ้งเฟื่อง อายุ 51 ปี คนขับรถบัสโดยสาร กล่าวว่า ตนเองขับรถบัสรับผู้โดยสารออกจากหมอชิต เพื่อไปส่งต่างจังหวัด มีผู้โดยสารมา 10 กว่าคน พอมาถึงตรงจุดเกิดเหตุฝนตก และถนนมืด ทำให้ไม่เห็นรถยนต์กระบะ กับรถยนต์เก๋งชนกันอยู่กลางถนน ทำให้หักหลบแทรกระหว่างกลาง ก่อนจะพุ่งชนแบริเออร์เกาะกลางถนนจนขึ้นไปห้อยคาอยู่ โชคดีผู้โดยสารภายในรถบัสโดยสารไม่ได้รับบาดเจ็บ
ด้าน นายณัฐพล นาคน้อย อายุ 27 ปี คนขับรถเก๋ง กล่าวว่า ตนขับรถออกจากกรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านที่จังหวัดลพบุรี พอมาถึงจุดเกิดเหตุรถยนต์กระบะคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายอย่างจัง ก่อนจะกระเด็นไปคนละทาง ระหว่างนั้นรถบัสมาที่หลังพุ่งชนแทรกระหว่างกลางรถเก๋ง และรถกระบะ ขึ้นไปเกยเกาะกลางดังกล่าว
เบื้องต้น คาดว่าฝนตก ประกอบกับความมืดทำให้รถกระบะเสียหลักชนท้ายรถยนต์เก๋ง ก่อนจะกระเด็นไปคนละทาง จากนั้นรถบัสโดยสารตามมามองไม่เห็น พอมาใกล้ถึงจึงเห็นเลยหักหลบแทรกผ่าระหว่างกลางทั้ง 2 คัน ก่อนไปชนแบริเออร์จนพุ่งขึ้นไปคาในสภาพดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนคนขับรถทั้งหมด รวมถึงผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง โชคดีที่รถบัสไม่พลิกคว่ำ ไม่เช่นนั้นต้องเกิดการสูญเสียมากกว่านี้แน่
ต่อมา เวลาประมาณตี 1 วันนี้ (10 ก.ค.) ร.ต.ท.สามารถ รักษาศักดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 18 ล้อ ชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ และรถยนต์เก๋ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายติดอยู่ภายในรถ บนถนนสาย 347 ปทุมธานี-บางปะหัน บริเวณสี่แยกวรเชษฐ หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา นำอุปกรณ์ตัดถ่างเร่งไปให้การช่วยเหลือ
พบรถยนต์บรรทุก 18 ล้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 83-1218 นครสวรรค์ ตัวลูก 83-1219 นครสวรรค์ สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในรถฝั่งผู้โดยสารพบ น.ส.วิภาดา กุมภากูล อายุ 33ปี ติดอยู่ภายในรถ ถูกคอนโซลกดทับที่ขา ขาหักทั้ง 2 ขา เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนานกว่า 20 นาที ช่วยเหลืออกมาได้นำส่งโรงพยาบาล
ส่วน นายวันชัย บริหาร อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ใกล้กันพบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-6997 สิงห์บุรี พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ที่ด้านท้ายถูกชนพังยับเยิน อิฐที่บรรทุกมากว่าพันก้อนกระจายเกลื่อนเต็มถนน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย กระเด็นออกมาจากตัวรถ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
ทราบชื่อคือ นายดำรงค์ รวมพิมาย อายุ 29 ปี คนขับรถ นายลำเพย พรมมา อายุ 36 ปี นายบรรจง หมื่นแก้ว อายุ 52 ปี และ น.ส.นพรัตน์ สิงห์ อายุ 27 ปี ทั้ง 4 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีแผลถลอกตามร่างกาย
ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 3250 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่กลางถนน ที่ท้ายรถมีร่องถูกชนจนกันชนหลุด ตัวรถ และภายในรถก้อนอิฐกระเด็นเข้ามาจำนวนมาก มี นายชวลิต ปฎิพัทธ์จินดา อายุ 41 ปี มากับรถเก๋งคันดังกล่าวพร้อมแฟนสาว ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นายชวลิต ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋ง กล่าวว่า ตนเอง และแฟนได้ขับรถออกมาจาก อ.บางบาล เพื่อกลับบ้านพักในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ระหว่างนั้นรถของตนได้จอดติดไฟแดงอยู่คันหน้าสุด และมีรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกอิฐมาจอดติดไฟแดงที่ท้ายรถ จู่ๆ ก็มีรถบรรทุก 18 ล้อ พุ่งเข้ามาชนที่ท้ายรถ 10 ล้อ เข้าอย่างจังเสียงดังสนั่น และมาโดนรถของตนเองจนรถนั้นหมุนไปหลายตลบ โชคดีที่ไม่เป็นอะไรทั้ง 2 คน มีเพียงก้อนอิฐกระเด็นเข้ามาเต็มรถ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า รถยนต์บรรทุก 18 ล้อ มีปัญหาระบบเบรก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ และรถยนต์เก๋งจอดติดไฟแดงอยู่ จึงเสียหลักพุ่งเข้าชนอย่างแรงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ทั้งนี้ จะต้องทำการสอบสวนผู้ขับขี่รถทั้ง 3 คัน และพยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป