xs
xsm
sm
md
lg

หนึ่งเดียวในโลก! ตักบาตรบนหลังช้างที่เมืองสุรินทร์ถวายเป็นพุทธบูชา(ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สุรินทร์ - หนึ่งเดียวโลกที่จังหวัดสุรินทร์ พิธีตักบาตรพระสงฆ์ 46 รูป บนหลังช้างอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเทศกาลเข้าพรรษา พุทธศาสนิกชนชาวไทย และนักท่องเที่ยวร่วมประกอบพิธีทำบุญตักบาตรอย่างคึกคัก



วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ที่บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เป็นประธานในการประกอบพิธีทางศาสนา นำพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำบุญ ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์นั่งบนหลังช้าง จำนวน 46 รูป ซึ่งเป็นแห่งเดียวในโลก

นอกจากนั้น ยังมีพระสงฆ์ สามเณรเดินบิณฑบาตจากพุทธศาสนาสนิกชน สร้างความอิ่มเอิบใจแก่ผู้ได้เข้าร่วมพิธี ประเพณีตักบาตรบนหลังช้าง จะประกอบพิธีในช่วงวันอาสาฬหบูชา และเทศกาลเข้าพรรษาของทุกปี


โดยการทำบุญตักบาตรบนหลังช้างของจังหวัดสุรินทร์ดังกล่าว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จประปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อให้พุทธศาสนิกชนเกิดเจตคติที่ดีต่อวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นการกระตุ้น และส่งเสริมกิจกรรมทางพุทธศาสนา ขนบธรรมเนียม ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของชาวสุรินทร์ และชาวไทย

รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถือว่าเป็นแห่งเดียวในโลก โดยพระสงฆ์ และสามเณรได้ขึ้นนั่งบนหลังช้าง เพื่อให้ญาติโยมทั้งได้ทำบุญใส่บาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศต่างตื่นตาตื่นใจต่อการได้ทำบุญตักบาตรแด่พระสงฆ์ สามเณรบนหลังช้าง และได้บริจาคเงินทำบุญแก่ช้าง ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่ และสัตว์มงคลที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาช้านานด้วย โดยพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้าง

ขณะที่พุทธศาสนิกชนแต่งกายด้วยชุดผ้าไหม หรือแต่งกายชุดผ้าพื้นเมืองของจังหวัดสุรินทร์ พากันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล รับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา


จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดงาน “มหกรรมแห่เทียนพรรษา และตักบาตรบนหลังช้าง” จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นงานประจำปีที่มีความสำคัญอีกงานหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ ในการเผยแพร่งานให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ



กำลังโหลดความคิดเห็น