xs
xsm
sm
md
lg

กลัวถูกจับ ยอมทิ้งบ้านนาน 3 เดือนหลังต้นพะยูงล้มทับไม่กล้าตัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - ต้นไม้พะยูงยอดนิยมของหมู่โจรที่กฎหมายไทยยกเป็นไม้หวงห้ามตัดโค่นล้มทับบ้านนาน 3 เดือน เจ้าของบ้านไม่กล้าตัดเพราะกลัวโดนจับ สุดท้ายต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับลูก จนเวลาล่วงมานานถึง 3 เดือนบ้านพังก็เข้าไปซ่อมไม่ได้ วอนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วน

ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ได้มีเจ้าของบ้านวัย 51 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนหนัก หลังจากพายุพัดเอาไม้พะยูงโค่นล้มทับบ้านได้รับความเสียหายตั้งแต่เดือนเมษายน 60 ที่ผ่านมาแต่ไม่กล้าตัดเพราะกลัวถูกจับ ได้แจ้งไปทุกหน่วยงานแต่ยังไม่มีคำตอบ จึงย้ายออกไปอยู่บ้านลูกเพราะกลัวบ้านจะพังได้รับอันตราย วอนหน่วยงานเข้าช่วยเหลือโดยด่วน

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.กาฬสินธุ์ได้เข้าไปสอบถามปัญหาดังกล่าวจากนางหนึ่งฤทัย สารภัคดี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 4 ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผู้เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากกรณีต้นพะยูง ซึ่งเป็นต้นไม้หวงห้ามล้มทับบ้านพังทั้งหลัง


โดยนางหนึ่งฤทัยกล่าวว่า ด้วยความกลัวผิดกฎหมายจึงไม่กล้ายุ่งกับต้นพะยูงที่ล้มทับบ้าน เบื้องต้นได้เดินทางไปแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการแต่ยังเงียบ

จนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้วบ้านพังอยากซ่อมก็ไม่ได้มีความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้นพะยูงที่อยู่ข้างบ้านยังล้มพาดสายไฟส่งผลให้ไฟฟ้าดับมานานเกือบ 3 เดือนแล้ว ปล่อยทิ้งไว้ในสภาพเดิมตั้งแต่เกิดเหตุเพื่อรอคำตอบจากผู้ใหญ่บ้านแต่ก็ยังไร้วี่แวว ส่วนตัวก็อพยพไปอาศัยอยู่กับลูกๆ แทน

นางหนึ่งฤทัย สารภัคดี เล่าว่า ในช่วงเย็นของวันที่ 29 เมษายน 2560 ขณะที่ตน กับสามี และหลานชายวัย 6 ขวบ อยู่ภายในบ้าน ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมแรง ทันใดนั้นต้นไม้พะยูงที่อยู่ข้างบ้านต้านแรงลมไม่ไหวได้เกิดโค่นล้มลงมาทับหลังคาบ้านจนได้รับความเสียหายและเกี่ยวสายไฟจนขาด

โดยหลังจากพายุสงบก็มีหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบและบอกกับตนว่าอย่าเพิ่งตัดไม้ออกไป เพราะเป็นไม้หวงห้ามให้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านก่อน

จากนั้นตนได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและได้ไปแจ้งธนาคารอาคารสงเคราะห์ซึ่งติดจำนองที่ไว้ ทางธนาคารได้บอกว่าไม่มีสิทธิ์ออกเอกสารให้ได้เนื่องจากเป็นการรับจำนองที่ดินเท่านั้น ผู้ใหญ่บ้านได้บอกว่าได้เข้าไปแจ้งที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้วและแจ้งที่ป่าไม้จังหวัดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำตอบกลับมา

จนเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือนตนก็ยังไม่สามารถตัดไม้ออกจากตัวบ้านเพื่อทำการซ่อมแซมได้เพราะกลัวว่าจะถูกจับ โดยทางเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลหัวงัวก็ได้นำไม้และสังกะสีมาให้เพื่อซ่อมแซมบ้านแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้เพราะยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ กลับมา หากตัดไปอาจจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตนจึงได้ย้ายออกไปอยู่บ้านลูกที่อยู่ใกล้ๆ กัน

เพราะกลัวว่าตัวคานบ้านจะรับน้ำหนักไม่ไหวและอาจจะพังลงมาได้ตลอดเวลาจึงหวั่นว่าจะเป็นอันตรายจึงต้องย้ายออกมาก่อน นอกจากนี้ไม้ยังล้มขวางเส้นทางการสัญจรของครอบครัวของตน

โดยตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือและหาแนวทางที่จะทำการตัดไม้ออกจากตัวบ้านให้ด้วย เพื่อที่จะได้ทำการซ่อมแซมบ้านให้กลับมาอยู่อาศัยได้ตามปกติ


กำลังโหลดความคิดเห็น