กาฬสินธุ์ - สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 สรุปผลการสอบข้อเท็จจริงกรณี ผอ.ถูกร้องแอบถ่ายคลิปอาบน้ำและลวนลามอดีตลูกเลี้ยง พบมีมูลความผิดจริง พร้องชงเรื่องศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว ศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ย้ำไม่มีใครแทรกแซงทุกอย่างต้องจบด้วยกระบวนการยุติธรรม
จากกรณีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ พาลูกสาววัย 19 ปีเข้าร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์, ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ว่าลูกสาวถูกอดีตสามีใหม่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ใช้โทรศัพท์แอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะอาบน้ำ พร้อมกับลวนลามมานานหลายปี จึงเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 หรือ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 และแจ้งความต่อตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กับพนักงานสอบสวนตามไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (20 มิ.ย. 60) นายวันชาติ บัวสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 หรือ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 นำเอกสารหลักฐานและผลสรุปการสอบข้อเท็จจริงกรณีนายสมศักดิ์ ขันทวี อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองหูลิงเจริญเวทย์ ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ถูกข้าราชการครูร้องเรียนว่า นายสมศักดิ์ ขันทวี ซึ่งเป็นอดีตสามีใหม่ ใช้โทรศัพท์แอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะลูกสาวอาบน้ำ พร้อมกับลวนลามมานานหลายปี ยื่นให้กับนายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ โดยผลการสอบของคณะกรรมการพบว่ามีมูลความผิด และเสนอเรื่องให้ศึกษาธิการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายสมศักดิ์ ขันทวี
นายวันชาติ บัวสิงห์ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 กล่าวว่า หลังมีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนในวันที่ 15 มีนาคม 2560 ทาง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาถึง 3 ครั้ง และเร่งดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากผู้ถูกร้องเป็นข้าราชการและผู้ร้องก็เป็นข้าราชการและเป็นเยาวชน จึงต้องดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนอย่างรอบคอบ และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
แต่เนื่องด้วยผู้เสียหายเป็นเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ต่างจังหวัด การสอบสวนค่อนข้างลำบากเพราะต้องรอให้ปิดเทอมกลับมาบ้านจึงสอบสวนได้ ต้องใช้เวลาพอสมควร ยืนยันว่าไม่ได้ล่าช้า และคณะกรรมการได้สอบสวนตรงไปตรงมา
จากการสืบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ประกอบกับพยานหลักฐานที่ผู้ร้องนำมามอบให้ อีกทั้งจากการลงพื้นที่ของคณะกรรมการด้วยตัวเอง มีผลสรุปออกมาว่ามีมูลความผิด วันนี้จึงนำเอกสารผลสรุป และเอกสารต่างๆ ยื่นเสนอต่อศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวหลายฝ่ายได้ช่วยกันตรวจสอบ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากผู้กระทำผิดประพฤติชั่วจะต้องได้รับโทษตามที่กระทำไว้ แต่หากไม่ได้กระทำผิด เป็นบุคคลดี ต้องได้รับการยกย่อง เชิดชูเป็นคนดี
ด้านนายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องและรายงานจาก สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 แล้ว เบื้องต้นทางศึกษาธิการจังหวัดจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายสมศักดิ์ ขันทวี ทันทีตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2560 ทั้งนี้ คณะกรรมการของศึกษาธิการจะดำเนินการสอบวินัย คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกกล่าวหาสนิทสนมกับอดีตนักการเมือง ผู้กว้างขวางในพื้นที่ เกรงว่าจะมีการช่วยเหลือกัน และเรื่องดังกล่าวจะเงียบหายไปนั้น เรื่องดังกล่าวตนในฐานะศึกษาธิการจังหวัด และทาง ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ไม่เคยหนักใจ เพราะไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายการเมือง
ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายสมศักดิ์ ขันทวี ฝากขังไปยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งได้กำชับไปยังพนักงานสอบสวนและหัวหน้าสถานีทำสำนวนให้รัดกุม คาดว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งไปที่สำนักงานอัยการ จ.กาฬสินธุ์ภายในสัปดาห์หน้า
มีรายงานว่าญาตินายสมศักดิ์ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลอีกครั้ง โดยใช้เงินสด 500,000 บาท หลังจากเมื่อวานนี้ศาลอนุญาตให้ประกันตัว แต่มีหลักทรัพย์ไม่เพียงพอและยื่นไม่ทัน คาดว่าน่าจะสามารถยื่นประกันตัวได้ในช่วงเย็นวันนี้