กาฬสินธุ์ - ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ออกหมายเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนหื่น แอบถ่ายคลิปอาบน้ำและลวนลามอดีตลูกเลี้ยง ข้อหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี แต่เจ้าตัวหายหัว อ้างไปทัศนศึกษาต่างประเทศ
จากกรณีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ พาลูกสาววัย 19 ปีเข้าร้องทุกข์ต่อผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ว่า ลูกสาวถูกอดีตสามีใหม่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ใช้โทรศัพท์แอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะอาบน้ำ พร้อมกับลวนลามมานานหลายปี
เรื่องดังกล่าวได้ร้องทุกข์ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2559
พร้อมกับเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2559 แล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า กระทั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ให้รายงานผลการสอบสวนภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย.) พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าล่าสุดได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ประสิทธิ์ จำปาทุม ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนคือ ร.ต.อ.วีระวัฒน์ หิรัญภิงคา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และ พ.ต.ท.สุขสวัสดิ์ โคตรคำ สารวัตรสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ หัวหน้าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน
พร้อมส่งสายตรวจเข้าไปแจ้งที่บ้านพักและโรงเรียน ซึ่งอยู่ในสังกัด สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 แล้ว เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี แต่ไม่พบตัวผู้อำนวยการ และไม่สามารถติดต่อได้
จากการสอบถามญาติและครูในโรงเรียนระบุว่าผู้อำนวยการได้ไปทัศนศึกษากับคณะครู และคณะ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะเดินทางกลับมาถึงช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2560 ซึ่งตำรวจจะได้เรียกตัวผู้อำนวยการมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้งในวันอังคารที่ 20 มิถุนายนนี้ อีกทั้งจะต้องตรวจสอบว่ามีเอกสารไปราชการจริงหรือไม่
พล.ต.ต.มนตรีกล่าวต่อว่า สำหรับคดีดังกล่าวถือว่าสังคมและประชาชนให้ความสนใจ อีกทั้งผู้เสียหายเป็นเยาวชนอายุเพียง 19 ปี เป็นอนาคตของชาติ ซึ่งตามคำให้การของผู้ปกครองและผู้เสียหายถูกกระทำมาตั้งแต่อยู่ ม.1 ขณะนั้นอายุประมาณ 13-14 ปี ส่วนผู้ถูกกล่าวหาก็เป็นข้าราชการ มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนผู้บริหารระดับสูง ตำรวจจะต้องเร่งรัดคดี และทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคม พร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
เรื่องดังกล่าวตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพราะที่ผ่านก็ถือว่ามีความล่าช้า
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากข้าราชการครู และลูกสาววัย 19 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะได้ร้องทุกข์ต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 พร้อมกับเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2559 แล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า
กระทั่งทางมูลนิธิฯ ได้ประสานงานมายังผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ จนมีการเร่งรัดให้ดำเนินการจนถึงขั้นตอนปัจจุบัน