ประจวบคีรีขันธ์ - เตรียมย้าย ด.ญ.ทั้งหมด ในบ้านนกขมิ้นไปบ้านพักเด็กและครอบครัวประจวบฯ หลังเกิดเหตุกระทำอนาจารเด็ก ไม่พบการจดทะเบียน และไม่มีผู้ดูแลเด็ก พร้อมสั่งยุติบทบาทความเป็นมูลนิธิ ขณะที่รอง ผอ.มูลนิธิตั้งกรรมการเข้ามาตรวจสอบ และสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ทันที วอนสังคมเข้าใจ
ภายหลังจากคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ ประกอบด้วย ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน,พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์,บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศบาลเมืองหัวหิน ตำรวจ ทหารลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานของมูลนิธิบ้านนกขมิ้น หมู่บ้านเขาเต่า ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2560 เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเด็กกระทำอนาจารเด็ก
จากการตรวจสอบพบว่ามูลนิดังกล่าวยังไม่มีการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ หรือสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน กับกระทรวงมหาดไทย โดยในครั้งนี้คณะกรรมการได้สั่งให้มูลนิธิหยุดดำเนินการใดๆทั้งหมด เพื่อรอการตรวจสอบ และดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของเด็กๆ ซึ่งเป็นเด็กหญิง ขณะนี้ยังไม่มีผู้ดูแลที่ชัดเจน ทาง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวมีความเป็นห่วงด้านความปลอดภัยและสวัสดิภาพ จึงรายงานให้ผู้ว่าราชากรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รับทราบเพื่อดำเนินการ สั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเป็นการชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
ล่าสุดช่วงค่ำวันที่ 20 พ.ค.2560 นางฉวีวรรณ สัญญา พัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายไพศาล แต้มช่วย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัด,นางสาวไพลิน กองพันธ์ รองนายเทศมนตรีเมืองหัวหิน ได้เดินทางเข้าพบ นายปัญญา ไผ่แก้ว รองผู้อำนวยการมูลนิธิบ้านนกขมิ้น และคณะกรรมการมูลนิธิฯ ซึ่งเดินทางมายื่นเอกสารและรับฟังขั้นตอนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยวันนี้คณะกรรมการตรวจสอบฯจะดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเป็นการชั่วคราว โดยนำเด็กหญิงทั้งหมดที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีระยะเวลาในการคุ้มคราวชั่วคราว 3 เดือน ในระหว่างนี้จะมีการประสานกับสถานศึกษาของเด็กๆซึ่งอยู่ในอำเภอหัวหินถึงการส่งการบ้านทำแบบฝึกหัด
โดยทันทีที่คณะกรรมการมูลนิธิฯแจ้งว่าจะต้องทำการย้ายเด็กๆออกจากมูลนิธิฯไปในวันนี้ เด็กต่างก็รู้สึกตกใจบางรายก็ร้องให้เนื่องจากไม่ได้ทราบมาก่อนล่วงหน้า แต่ทางคณะกรรมการมูลนิธิฯก็ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับเด็กๆว่า เป็นการย้ายที่เพียงชั่วคราวและจะกลับมาพบกันใหม่ เหมือนการไปเข้าค่าย จากนั้นเด็กๆก็แยกย้ายกันเตรียมข้าวของสัมภาระต่างๆ ด้วยสีหน้าโศกเศร้า
นายปัญญา ไผ่แก้ว รองผู้อำนวยการมูลนิธิบ้านนกขมิ้น กล่าวว่า ภายหลังที่ทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้เรียกเจ้าหน้าที่รายนี้เข้าไปสอบถาม และสั่งพักงานทันที รวมทั้งได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเดินทางมาสอบถามเรื่องราวจากตัวเด็กเองด้วย ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
สำหรับวันนี้ตั้งใจว่าจะมารับตัวเด็กๆทั้งหมดกลับไปดูแลที่มูลนิธิบ้านนกขมิ้น กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแต่ก็ได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆว่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของทางราชการ ซึ่งก็พร้อมปฏิบัติตามในทุกด้าน ยินยอมให้เจ้าหน้าที่นำเด็กไปคุ้มครองสวัสดิภาพ ซึ่งในระหว่างนี้ทางมูลนิธิฯจะยังคงดูแลรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายของเด็กๆต่อไป หากมีเรื่องขาดตกบกพร่องจะช่วยเหลือทันที รวมทั้งจะขอเข้าไปเยี่ยมเด็กๆด้วย
ในส่วนของการดำเนินงานของมูลนิธิบ้านนกขมิ้นสาขาหัวหินแห่งนี้คงต้องกลับไปคุยกับคณะกรรมการชุดใหญ่อีกครั้ง แต่ก็ยืนยันว่ายังอยากทำต่อ แต่ในระหว่างนี้ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้องรวม ที่ผ่านมาทางมูลนิธิไม่ได้เพิกเฉยต่อการจดทะเบียนให้ถูกต้อง แต่ก็ยอมรับว่าล่าช้าไปมาก เนื่องจากติดขัดปัญหาเรื่องบุคลากร ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยมีข้อกำหนดหลายข้อให้ดำเนินการ เช่น การจัดหานักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา อยู่ในระหว่างการเตรียมพร้อมบุคลกรและทางมูลนิธิก็ให้ความร่วมมือมาตลอด
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองเสียใจมาก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็ก และส่งผลเสียกับมูลนิธิเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีข่าวออกไปก่อนที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน แต่อย่างไรก็ตามทางมูลนิธิฯ มีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหานี้ให้ได้ สำหรับเด็กๆแม้จะเสียใจที่ต้องจากบ้านที่พวกเขาอาศัยมานานหลายปี แต่ตนก็จะพยายามดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อนำลูกๆกลับมาดูแลเหมือนเดิม และได้บอกกับเด็กๆว่าเหมือนการไปเข้าค่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนำเด็กไปคุ้มครองชั่วคราวแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งไปยังผู้ปกครองของเด็ก และจะมีการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ในส่วนของมูลนิธิบ้านนกขมิ้นที่ได้ยื่นความจำนงค์ว่าจะรับตัวเด็กๆเหล่านี้กลับไปดูแลที่มูลนิธิบ้านนกขมิ้น กรุงเทพมหานคร ทางคณะกรรมการจะต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานจากหน่วยงานต้นสังกัดให้ชัดเจนก่อน เนื่องจากวันนี้ทางมูลนิธิฯยื่นเอกสารที่เป็นสำเนามาเท่านั้น หากถูกต้องก็สามารถรับตัวเด็กกลับไปดูแลได้ โดยจะมีคณะการตรวจสอบติดตามด้วย