ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” อดีต 5 แกนนำ พธม.ยันป่วยจริงไม่ได้หนีศาล นอนพักรักษาอยู่ที่ รพ.ค่ายสุรนารี โคราช ย้ำเคารพและเชื่อมั่นศาลเสมอ ทันทีที่ออก รพ.จะไปมอบตัวต่อศาล
วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บุกรุกทำเนียบรัฐบาลปี 2551 หมายเลขดำที่ อ.4925/2555 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 6 แกนนำ พธม. โดย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 4 ไม่ได้เดินทางมาศาล แต่มอบอำนาจทนายความมาแถลงขอเลื่อนนัด ได้แถลงต่อศาลว่า จำเลยที่ 4 เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมยื่นสำเนาใบรับรองแพทย์ แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 4 จะมีอาการป่วยจริง จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 4 เพื่อมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อไปนั้น
ล่าสุดที่ห้องผู้ป่วย 817 โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อายุ 67 ปี อดีต 1 ใน 5 แกนนำ พธม. เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวขณะนอนพักรักษาอยู่บนเตียงผู้ป่วยว่า ตนมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. อาการเริ่มต้นเกิดจากอาการเวียนศีรษะอย่างรุนแรง และมีอาเจียน ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ป.แพทย์ อ.เมือง จ.นครราชสีมาแล้ว
จากนั้นหมอจึงสั่งย้ายให้มาที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี มีการฉีดยา ตอนแรกคิดว่าจะกลับบ้านได้จะได้ไปศาลทันเวลา แต่พอฉีดยาเข็มที่ 2 มีอาการเวียนศีรษะหนักขึ้น และมีอาการลักษณะบ้านหมุน ซึ่งตนทราบดีว่าคดีเหล่านี้สืบเนื่องมาจากการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะตนและบรรดาแกนนำ พธม. ตอนนี้ ยังอยู่ระหว่างการตัดสินของศาลอยู่อีก 9 คดีหลักๆ
“ถ้าผมหายเมื่อใดจะไปมอบตัวทันที ศาลจะออกหมายจับหรือจะทำอะไรก็ต้องไปรายงานตัวต่อศาล” นายสมเกียรติกล่าวยืนยัน
นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า กรณีอาการป่วยของตนนั้น ก่อนหน้านี้ตนเคยป่วยมาแล้ว คือ เส้นเลือดสมองตีบ ร่างกายซีกขวาใช้การไม่ได้ เดินไม่ได้และจำไม่ได้ ต้องไปเรียนฝึกหัดภาษาอยู่ 3 เดือนที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และต้องไปรักษาที่นั่นเป็นประจำเมื่อตอนปี 2553 มีอาการวูบ เวียนศีรษะ และบ้านหมุน เคยเป็นถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เข้ารักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 4 วัน ครั้งที่ 2 โรงพยาบาลเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นอนพักรักษา 1 วัน จึงกลับบ้านได้หลังจากฉีดยาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง
และล่าสุดเข้ารักษาที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งนี้ นพ.ภัทราวุธ สุทธิรัตน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี แพทย์เจ้าของไข้ วินิจฉัยว่า เวียนศีรษะ อาเจียน หน้ามืด และมีอาการประสาทอักเสบเฉียบพลัน หมอถึงออกใบรับรองแพทย์ให้และได้จัดการส่งให้ศาลเรียบร้อยแล้ว
ส่วนอาการบ้านหมุนเล็กน้อยนั้นเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ เมื่อกินยาแล้วก็หายชั่วคราว แล้วก็เป็นใหม่ เพราะตนมีอายุ 67 ปีแล้ว
“อยากวิงวอนขอร้องให้พี่น้องประชาชนเชื่อใจว่าผมนั้นป่วยจริงและไม่ได้หนีศาล ทันทีที่ออกจากโรงพยาบาลจะติดต่อทนายและไปมอบตัวที่ศาลเลย ซึ่งผมเคารพและเชื่อมั่นต่อศาลเสมอ” นายสมเกียรติกล่าวย้ำในตอนท้าย