นครพนม - ตามคาด “เจ๊สุ” เจ้าแม่เงินกู้เล่ห์เหลี่ยมร้อยเล่มเกวียนขอเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์กรณีลูกหนี้ฟ้องแจ้งความเท็จ อ้างป่วยกะทันหันเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ขณะที่บรรดาลูกหนี้มารอลุ้นคำตัดสินแต่เช้า
กรณี “เจ๊สุ” นางสาวสุนภา หรือสุพิชญ์ฌา เรืองสุวรรณ หรือ อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี เจ้าของ บจ.มิตรศิลป์มอเตอร์ไซค์ เลขที่ 924/1-4 ถ.อภิบาลบัญชา เขตเทศบาลเมืองนครพนม เจ้าแม่เงินกู้นอกระบบคิดดอกเบี้ยโหดกับชาวบ้านในจังหวัดนครพนม ใช้เล่ห์เหลี่ยมยึดที่ดินลูกหนี้ ซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 100 ราย ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครพนม จับกุมเมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
เบื้องต้นได้ตรวจยึดเอกสารเกี่ยวกับการจดจำนองที่ดิน โฉนดที่ดิน เงินสด 420,000 บาท สมุดเงินฝากธนาคาร 31 เล่ม เครื่องประดับ 11 รายการ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ฯลฯ ไว้ทำการตรวจสอบ ส่วนลูกสาวของเจ๊สุที่ถูกออกหมายจับด้วยคือ น.ส.ศศิญัฐญา อภิชัจฐ์โภคิน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดวันนี้ (31 พ.ค.) เวลา 09.00 น. เป็นวันที่ศาลอุทธรณ์จะอ่านคำพิพากษาระหว่าง นางสาริกา คนฉลาด อายุ 69 ปี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเจ๊สุ พร้อมลูกน้องคนสนิท ในข้อหาเบิกความเท็จ
ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา และเจ๊สุยื่นประกันตัวขอต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ บรรยากาศในช่วงเช้ามีบรรดาลูกหนี้ทยอยเดินทางมาสมทบกันที่ศาลาที่พักญาติ
ต่อมานางสาริกาเดินทางมาถึงศาลพร้อมกับ นายสมหมาย วงมะแสน ทนายความ โดยรับช่อดอกไม้จากกลุ่มลูกหนี้เพื่อเป็นกำลังใจในการต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรม
นางสาริกาเปิดเผยว่า วันนี้น้อมรับฟังคำตัดสินของศาลไม่ว่าจะออกมาในทิศทางใด ก่อนจะขอตัวไปนั่งในห้องพิจารณาที่ 6 รอศาลออกนั่งบัลลังก์ตัดสิน แต่ไร้เงาเจ๊สุคู่กรณี มีเพียงทนายกับลูกน้องคนสนิทเท่านั้น
กระทั่งศาลออกนั่งบัลลังก์ ทนายฝ่ายจำเลยยื่นหนังสือขอเลื่อนการพิจารณาคดี เนื่องจากจำเลยที่ 1 (เจ๊สุ) ป่วยกะทันหัน ขณะจะขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มานครพนม ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลวิชัยยุทธ แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากอาการเครียด พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์ ภาพถ่ายเจ๊สุขณะพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และตั๋วเครื่องบิน ต่อศาลฯ พิจารณา
ซึ่งศาลฯ ก็เมตตาอนุญาตและกล่าวแก่ทนายจำเลยว่า ช้าหรือเร็วจำเลยต้องมาฟังคำตัดสินด้วยตนเอง ประกอบกับฝ่ายจำเลยยื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลอุทธรณ์ ภาค 4 (ขอนแก่น) เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงต้องรอคำสั่งจากศาลฯ ว่าจะมีคำตัดสินอีกครั้งในวันที่เท่าไหร่
โดยจะมีหมายแจ้งไปยังทนายทั้งสองฝ่ายทราบ หากมีวันพิจารณาชัดเจนแล้วจำเลยยังไม่ยอมมาฟังคำตัดสินอีกก็จะออกหมายจับทันที
ขณะเดียวกัน มีนักกฎหมายท่านหนึ่งแสดงความเห็นก่อนเวลา 09.00 น.วันเดียวกันนี้ว่า อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด คือ ศาลไม่สามารถอ่านคำพิพากษาได้เพราะจำเลยไม่มาศาล โดยอ้างว่าป่วยหรือมีธุระจำเป็นที่ไม่อาจก้าวล่วงได้
ซึ่งเป็นเทคนิคของจำเลยในการขอเลื่อนการฟังคำพิพากษา เพราะถ้าไปฟังคำพิพากษา และศาลมีคำพิพากษายืนต้องติดคุกทันที “เจ๊สุ” จึงดิ้นถึงวินาทีสุดท้ายเพื่อยืดวันตัดสินออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้