เอกฉันท์..ชาวบ้านลงมติขออนุรักษ์บึงกะโล่ ขวาง ส.ป.ก.ประเคนนายทุน-นักการเมือง

อุตรดิตถ์ - ชาวบ้าน 2 ตำบลลงมติขออนุรักษ์ “บึงกะโล่” ไว้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ขวาง ส.ป.ก.จัดสรรให้นายทุน-ญาตินักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงอดีตผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ และผู้บุกรุก บอกถ้าทำก็ต้องจัดสรรให้ชาวบ้านทั้งหมดด้วย

นายสมศักดิ์ หอมเพียร กำนัน ต.ป่าเซ่า นายไพฑูรย์ พรหมน้อย กำนัน ต.คุ้งตะเภา อ.เมืองอุตรดิตถ์ และชาวบ้าน 2 ตำบล กว่า 700 คน ได้ประชุมร่วมกันที่ศาลาการเปรียญวัดหนองกลาย หมู่ 5 ต.ป่าเซ่า อ.เมืองอุตรดิตถ์ วานนี้ (18 มิ.ย.) โดยมีนายประสงค์ อุไรวรณ์ นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์, ตัวแทน ส.ป.ก., โยธาธิการและผังเมืองอุตรดิตถ์ และ ทสจ.ร่วมด้วย

โดยได้หารือกันเกี่ยวกับพื้นที่บึงกะโล่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้าน 2 ตำบลร่วมใช้ประโยชน์ทั้งด้านการเกษตร การประมง เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลากหลายชนิดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

ซึ่งหลังจากใช้เวลาหารือกันนานกว่า 3 ชั่วโมง ประชาชนกว่า 95 เปอร์เซ็นต์มีความเห็นว่าสมควรอนุรักษ์บึงกะโล่ไว้เพื่อเป็นแหล่งน้ำ และใช้ประโยชน์ร่วมกันเหมือนเดิม ไม่ต้องการให้หน่วยงานราชการจัดสรรให้นายทุน ญาติของนักการเมืองท้องถิ่นใน ต.ป่าเซ่า และอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อุตรดิตถ์รายหนึ่ง

นายสมศักดิ์กล่าวว่า การที่ ส.ป.ก.อุตรดิตถ์ยืนยันจะยึดตามข้อกฎหมาย หรือพยายามที่จะจัดสรรให้แก่ชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุก กลุ่มนายทุน กลุ่มเครือญาติของนักการเมืองท้องถิ่น และอดีตผู้สมัคร ส.ส.นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง ขณะเดียวกัน การที่ประกาศให้พื้นที่ 1,218 ไร่ไม่สามารถจัดสรรได้นั้นก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน ต้องประกาศให้ครอบคลุมพื้นที่บึงกะโล่ทั้งหมดที่มีมากถึง 7,500 ไร่เศษ

“แต่หากเป็นความชอบธรรม หรือคิดว่าทำถูกต้องก็ดำเนินการไปเลย แต่ควรจะนึกถึง และยึดความถูกต้องชอบธรรมด้วยก็เท่านั้น เพราะพื้นที่บึงกะโล่ไม่สมควรที่จะจัดสรรให้ใครคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า วันนี้กลุ่มชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่ในบึงกะโล่เริ่มตื่นตัวแล้ว หาก ส.ป.ก.จัดสรรที่ดินให้กลุ่มนายทุน ญาตินักการเมือง หรืออดีตผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ได้ ก็จะยื่นขอให้ ส.ป.ก.จัดสรรที่ดินให้ชาวบ้านด้วย สุดท้ายที่ดินในบึงกะโล่จากที่เคยใช้ประโยชน์ร่วมกันก็จะถูกจัดสรรให้ประชาชนหมด จะไม่เหลือที่ดินสาธารณประโยชน์อีกต่อไป

ดังนั้น ส.ป.ก.จะต้องยกเลิกการจัดสรรที่ดินให้ผู้บุกรุกแบบไม่มีเงื่อนไข และประกาศให้พื้นที่ครอบคลุมพื้นที่บึงกะโล่ทั้งหมดไม่สามารถจัดสรรได้ เพราะหลังจาก ส.ป.ก.เข้ามาจัดสรรที่ดินบึงกะโล่ให้กับกลุ่มผู้บุกรุก ก็ทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มคนในพื้นที่ระหว่างผู้บุกรุกกับกลุ่มคนที่ต้องการอนุรักษ์ไว้ด้วย