จันทบุรี - ตร.จันทบุรี ร่วมกับ ตร.ศรีสะเกษ รวบผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนสาวใหญ่วัย 41 ปี ภายในบ้านพักกลางสวนผลไม้เมืองจันท์ หลังหลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิด เตรียมนำตัวมาแถลงข่าว และทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
วันนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเพ็ชร ปะทุมวัน อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 7 ตำบลสำโรงปราสาท อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ผู้ต้องหาที่ฆ่าข่มขืน นางพันธิภา ใจตั้ง อายุ 41 ปี ภายในบ้านพักไม่มีเลขที่กลางสวนผลไม้ หมู่ที่ 4 ตำบลชากไทย อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ได้แล้ว
โดยผู้ต้องหารายนี้หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีกลับภูมิลำเนา ที่จังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จึงได้ประสานให้ตำรวจภูธรปรางค์กู่ เร่งรัดติดตามจับกุม จนสามารถจับตัว นายเพ็ชร ปะทุมวัน ผู้ต้องหารายนี้ได้ที่สถานีรถไฟห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ ขณะเตรียมตัวจะหลบหนีไปจังหวัดสระบุรี
ในเบื้องต้น พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ ได้เดินทางไปรับตัว นายเพ็ชร ปะทุมวัน ผู้ต้องหารายที่สถานีตำรวจภูธรปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ มาที่สถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ก่อนจะมีการนำตัวผู้ต้องหารายนี้มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และร่วมทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้ต่อไป
ทั้งนี้ นายเพ็ชร ปะทุมวัน ผู้ต้องหารายนี้ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่า นางพันธิภา ใจตั้ง สาวใหญ่วัย 41 ปี จริง สาเหตุที่ทำไปเพราะเมาสุรา เพราะผู้ตายที่ไม่ยอมให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย รวมทั้งถูก นางพันธิภา ปฏิเสธจึงได้เกิดความโมโห และใช้ท่อนไม้ตี นางพันธิภา จนเสียชีวิต ก่อนจะลงมือข่มขืน และหลบหนีไป
นอกจากนี้ นายเพ็ชร ผู้ต้องหารายนี้ยังให้การว่า เคยขอ นางพันธิภา มีเพศสัมพันธ์หลายครั้งแต่ถูกปฏิเสธมาโดยตลอด และที่ผ่านมา นายเพ็ชร เคยสำเร็จความใคร่ให้ นางพันธิภา ดู แต่ นางพันธิภา ไม่เคยที่จะให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยจึงเป็นชนวนในการก่อเหตุในครั้งนี้ขึ้น
ขณะที่ผู้ต้องหามีอาการเครียด ไม่ยอมกินข้าว กินน้ำ ต้องให้ลูกชายนั่งรถมาด้วย ในเบื้องต้น ทาง พ.ต.อ.อภิชาติ ไชยบุญเรือง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ ต้องจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลผู้ต้องหารายนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผู้ต้องหาฆ่าตัวตาย